ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เมื่อวันพฤหัสบดี (7 พ.ย.) โวยวายบอกว่า "เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้" ต่อกรณีที่ยุโรปเสนอให้ประนีประนอมกับรัสเซีย เพื่อระงับปฏิบัติการรุกรานในยูเครน ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นหลังจาก มอสโก เรียกร้องให้ตะวันตกเข้าสู่การเจรจาโดยตรงเพื่อยุติสงคราม ตามหลัง โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
เคียฟ กำลังดิ้นรนเพิ่มแรงกดดันบรรดาพันธมิตรให้มอบแรงสนับสนุนแก่พวกเขาเพิ่มเติม ในการทำศึกสงครามกับรัสเซีย ตามหลัง โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ที่ก่อความสงสัยต่อความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ในอนาคต
ทรัมป์ เคยอวดอ้างว่าจะหยุดความขัดแย้งภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง และเคยส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ซ้ำๆ ต่อความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ที่มอบให้แก่เคียฟ
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เรียกร้องให้ยูเครนยอมสละดินแดนอันกว้างขวางทางตะวันออกและทางใต้ของประเทศ ในฐานะเงื่อนไขล่วงหน้าสำหรรับการเจรจาสันติภาพ อย่างไรก็ตาม เคียฟปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อการสละดินแดนใดๆ แลกกับสันติ
ยูเครนและประเทศตะวันตกหลายชาติแสดงความกังวลว่าการอ่อนข้อใดๆ แก่ปูติน จะยิ่งทำให้ผู้นำเครมลินรายนี้ฮึกเหิมยิ่งกว่าเดิมและนำไปสู่การรุกรานเพิ่มเติม
ระหว่างพูดกับพวกผู้นำยุโรป ณ ที่ประชุมซัมมิตหนึ่งในฮังการี ทางเซเลนสกี โวยวายพวกที่กำลังพยายามกดดันให้เขายอมทำตามข้อเรียกร้องแข็งกร้าวบางอย่างของปูติน "มีเสียงพูดคุยเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องยอมอ่อนข้อแก่ปูติน ยอมจำนน ยอมประนีประนอมบางอย่าง" เซเลนสกีระบุ "มันเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้สำหรับยูเครน และยอมรับไม่ได้สำหรับยุโรปทั้งมวล"
นอกจากนี้ เซเลนสกียังปฏิเสธด้วยความดุเดือดต่อข้อเรียกร้องของนายกรัฐมนตรีวิคเตอร์ ออร์บาน แห่งฮังการี ที่เสนอ "ข้อตกลงหยุดยิง" ในสนามรบ โดยบอกว่ามันเป็นข้อเรียกร้องที่ "อันตราย" และ "ไร้ความรับผิดชอบ"
ก่อนหน้านี้ ออร์บาน ผู้นำยุโรปที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นที่สุดกับปูติน บอกว่าข้อตกลงหยุดยิงจะ "มอบโอกาสและเวลาสำหรับคู่สงคราม ในการติดต่อสื่อสารและเริ่มต้นเจรจาสันติภาพ"
นอกจากนี้ เซเลนสกียังกล่าวหาพวกผู้นำยุโรปบางส่วน โดยไม่ระบุว่าเป็นชาติไหน ว่ากำลังพยายามกดดันอย่างหนักหน่วงให้ยูเครนยอมประนีประนอม "เราต้องการอาวุธอย่างพอเพียง ไม่สนับสนุนการเจรจา การกอดกับปูตินไม่ได้ช่วยอะไร พวกคุณโอบกอดเขามานานกว่า 20 ปี และสิ่งต่างๆ รังแต่จะเลวร้ายลง" ผู้นำยูเครนระบุ
ไม่นานก่อนหน้านี้ รัสเซียเรียกร้องให้บรรดาพันธมิตรของเคียฟ เข้าสู่การเจรจากับมอสโก ถ้าพวกเขาต้องหารหยุดการโจมตีใส่ยูเครน
เซอร์เก ชอยกู ปะธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย บอกว่าตะวันตกกำลังเผชิญกับการตัดสินใจเลือกระหว่างเปิดเจรจาโดยตรงกับมอสโก หรือเดินหน้าทำลายล้างพลเมืองยูเครนต่อไป
"เวลานี้ ตอนที่สถานการณ์ในสมรภูมิรบไม่เข้าทางเคียฟ ตะวันตกกำลังเผชิญกับตัวเลือกหนึ่งๆ" ชอยกู กล่าวระหว่างประชุมร่วมกับบรรดาเจ้าหน้าที่กลาโหมของเหล่าประเทศอดีตสหภาพโซเวียต "ทางเลือกดังกล่าวคือ เดินหน้าให้การสนับสนุนทางการเงินเคียฟและทำลายล้างพลเมืองยูเครนต่อไป หรือยอมรับความเป็นจริงในปัจจุบันและเริ่มต้นเจรจา" อดีตรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียระบุ
เซเลนสกี เรียกร้องให้ระมัดระวังเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างของ ทรัมป์ ที่เคยบอกว่าจะสามารถหยุดความขัดแย้งได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง "วันนี้ ผมเชื่อว่าประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการหาทางออกอย่างรวดเร็วจริงๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเกิดขึ้น"
ผู้นำยูเครนตั้งข้อสังเกตว่าข้อตกลงอย่างรวดเร็ว อาจหมายถึงความพ่ายแพ้ของเคียฟ
ในการแสดงความคิดเห็นที่เวทีสัมมนาวัลได ในเมืองโซชิ ทาง ปูติน เน้นย้ำว่า มอสโก เปิดกว้างสำหรับการเจรจา แต่ฝ่ายต่างๆ นั้นต้องตระหนักถึงความเป็นจริงในวันนี้
พวกเจ้าหน้าที่รัสเซียใช้ภาษาดังกล่าวซ้ำๆ พาดพิงถึงกรณีที่ปัจจุบัน กองทัพมอสโกควบคุมดินแดนอันกว้างขวางของยูเครน ที่ยึดได้ตลอดปฏิบัติการรุกรานที่ผ่านมา นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022
ปูติน แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้ง และบอกว่าพร้อมเจรจากับว่าที่ผู้นำอเมริกา ในขณะที่ ทรัมป์ บอกว่าเขาพร้อมสำหรับการพูดคุยกับ ปูติน เช่นกัน "ผมคิดว่าเราจะพูดคุยกัน" ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับเอ็นบีซีนิวส์
ที่ผ่านมา เซเลนสกี เคยยอมรับว่าหากปราศจากความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ทางยูเครนคงพ่ายแพ้สงคราม ทั้งนี้ด้วยกำลังพลและยุทโธปกรณ์ที่ด้อยกว่า ทำให้กองกำลังยูเครนตกเป็นรองในภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออกของประเทศ ดินแดนที่กองกำลังรัสเซียกำลังรุกคืบอย่างช้าๆ มานานหลายเดือนแล้ว
(ที่มา : เอเอฟพี)