เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของไต้หวันระบุวันนี้ (6 พ.ย.) ว่าสหรัฐฯ จะยังคงมีแนวทางที่เป็นมิตรกับไต้หวันหลังศึกเลือกตั้งผ่านพ้นไป และไต้หวันจะพยายามป้องกันไม่ให้จีน “ก่อปัญหา” ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านนี้
โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันซึ่งมีคะแนนนิยมไล่บี้กับรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต เคยกล่าวขณะเดินสายหาเสียงว่า ไต้หวันควร “จ่าย” เพื่อให้ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากอเมริกา แถมยังกล่าวหาเกาะประชาธิปไตยแห่งนี้ว่า “ขโมย” ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ไปจากชาวอเมริกันด้วย
ระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อที่รัฐสภาในกรุงไทเป ไช่ หมิงเยี่ยน (Tsai Ming-yen 蔡明彥) ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติไต้หวัน ยอมรับว่าผลเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ยังไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือออกก้อย
“ในส่วนของความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ เราเชื่อว่าสหรัฐอเมริกาจะยังคงนโยบายกดดันจีน และเป็นมิตรต่อไต้หวันเหมือนเดิม” เขากล่าว
ไช่ ยืนยันว่า ไต้หวันจะยังคงติดต่อสื่อสารกับรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบัน โดยเน้นความร่วมมือเรื่องสำคัญๆ “ในขั้นตอนถัดไป” และจะทำงานร่วมกับหุ้นส่วนนานาชาติเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับเจตนาของจีน และความเคลื่อนไหวทางทหารของปักกิ่งในระยะเปลี่ยนผ่านนี้
“นี่ก็เพื่อป้องกันไม่ให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนฉวยโอกาสในช่วงที่สหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ และป้องกันไม่ให้พวกเขาก่อปัญหาในระยะเปลี่ยนผ่าน”
สำนักงานกิจการไต้หวันของจีนยังไม่ออกมาให้ความเห็นในประเด็นนี้
ขณะเดียวกัน กัว จื้อฮุย (Kuo Jyh-huei) รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน ให้สัมภาษณ์เช่นกันว่ารัฐบาลจับตาดูผลเลือกตั้งในสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด และได้เตรียมแผนรับมือเอาไว้แล้วไม่ว่าผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่จะเป็นใครก็ตาม
กัว ย้ำว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ ลึกซึ้งแนบแน่น ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยง่าย และไม่ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่จะเป็นใครก็คงจะไม่เกิดผลกระทบในแง่เศรษฐกิจมากนัก
รัฐบาลไต้หวันยืนกรานปฏิเสธการอ้างอธิปไตยของจีนแผ่นดินใหญ่ และยืนยันว่ามีเพียงชาวไต้หวันเท่านั้นที่มีสิทธิตัดสินอนาคตของเกาะแห่งนี้
ที่มา : รอยเตอร์