ราคาน้ำมันทรงตัวและวอลล์สตรีทปิดบวกในวันอังคาร (5 พ.ย.) จับตาศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ อันคู่คี่สูสี ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองตามหลังการลงคะแนน ผลักให้ทองคำขยับขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ ปิดที่ 71.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ ปิดที่ 75.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน และรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต มุ่งหน้าสู่จุดจบที่ไม่แน่นอนในวันอังคาร (5 พ.ย.) ในขณะที่ชาวอเมริกาหลายล้านคนเริ่มออกมาใช้สิทธิกันแล้ว
"ผลการเลือกตั้ง กว่าจะทราบผลอาจต้องใช้เวลาหลายวัน หรือหลายสัปดาห์ และมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นศึกเลือกตั้งที่ท้าทายที่สุดและสูสีที่สุด" โธมัส วาร์กา นักวิเคราะห์จากพีวีเอ็ม บริษัทที่ปรึกษา ระบุ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขยับขึ้นทั่วทั้งกระดานใวันอังคาร (5 พ.ย.) หลังข้อมูลบ่งชี้เศรษฐกิจแข็งแกร่ง แต่นักลงทุนเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนในสัปดาห์นี้ ในขณะที่ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งสูสีที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกาได้เริ่มขึ้นแล้ว
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 427.28 จุด (1.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 42,221.88 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 70.09 จุด (1.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,782.78 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 259.19 จุด (1.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,439.17 จุด
สถาบันการจัดการอุปทาน (ไอเอสเอ็ม) ระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อนอกภาคการผลิต มาตรวัดภาคบริการ ร้อนแรงขึ้นสู่ระดับ 56.0 เมื่อเดือนที่แล้ว สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2022 และเพิ่มขึ้นจากระดับ 54.9 ของเดือนกันยายน รวมถึงเหนือกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้
ข้อมูลนี้ถูกเผยแพร่ออกมาไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ ซึ่งคาดหมายว่าอาจต้องใช้เวลานานหลายวันกว่าจะได้บทสรุป ในขณะที่โพลล่าสุดระหว่าง ทรัมป์ กับ แฮร์ริส ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา พบว่าทั้งคู่มีคะแนนนิยมสูสีกันอย่างมาก
ส่วนราคาทองคำปิดบวกในวันอังคาร (5 พ.ย.) นักลงทุนเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมือง หลังโพลชี้ว่าทั้ง ทรัมป์ และ แฮร์ริส เบียดกันแบบหายใจรดต้นคอในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 5.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,751.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)