ผู้เชี่ยวชาญเผย อีลอน มัสก์ และแพลตฟอร์ม X ได้กลายเป็นศูนย์กลางการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยพบว่าข้อมูลผิดพลาดเกี่ยวกับศึกเลือกตั้งที่ถูกโพสต์โดย มัสก์ มีผู้เข้าชมผ่านแพลตฟอร์ม X มากถึง 2,000 ล้านครั้งในปีนี้
ผู้สันทัดกรณีเกี่ยวกับการแชร์ข้อมูลบิดเบือนยังระบุด้วยว่า X ถือเป็นช่องทางหลักที่ถูกใช้เพื่อกระจายข้อมูลบิดเบือนในรัฐสมรภูมิ ซึ่งคาดว่าจะเป็นตัวตัดสินผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ตั้งแต่เข้าเทกโอเวอร์กิจการ X หรืออดีต “ทวิตเตอร์” ในเดือน ต.ค. ปี 2022 มัสก์ ได้มีนโยบายลดการคัดกรองเนื้อหาและปลดพนักงานออกหลายพันคน เขายังประกาศตัวสนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตผู้นำสหรัฐฯ สายรีพับลิกัน ซึ่งเวลานี้มีคะแนนนิยมตีคู่สูสีกับรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต
แคธลีน คาร์ลีย์ อาจารย์ด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จาก Carnegie Mellon University ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลบิดเบือน ระบุว่า การที่มี มัสก์ มีอำนาจเข้าถึงผู้ติดตามเกือบ 203 ล้านคนทำให้เกิดผลลัพธ์แบบ “เครือข่าย” ซึ่งคอนเทนต์ใน X สามารถกระโดดข้ามไปยังแพลตฟอร์มโชเชียลมีเดียและบริการรับส่งข้อความอื่นๆ เช่น Reddit และ Telegram เป็นต้น
ขณะเดียวกัน Center for Countering Digital Hate ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร เผยว่ามีโพสต์อย่างน้อย 87 โพสต์ของ มัสก์ ในปีนี้ที่เป็นการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่บรรดา fact-checkers พิสูจน์แล้วว่า “ผิด หรือบิดเบือน” และข้อมูลเหล่านี้มีผู้เข้าถึงมากถึง 2,000 ล้านวิว
ฟิลิป เฮนสลีย์-รอบิน ผู้อำนวยการ Common Cause ซึ่งเป็นองค์กรสนับสนุนความโปร่งใสของรัฐบาลและสิทธิในการเลือกตั้ง ระบุว่าที่รัฐเพนซิลเวเนียซึ่งเป็น 1 ใน 7 รัฐสวิงสเตตส์ มีผู้ใช้ X บางคนหยิบเอาเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งท้องถิ่นคัดแบบลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งที่ไม่สมบูรณ์ออก โดยอ้างว่านี่คือตัวอย่างของการ “แทรกแซงศึกเลือกตั้ง”
“ผู้ใช้ X บางคนอ้างว่านี่คือการโกงเลือกตั้ง แต่อันที่จริงพวกเราต่างก็รู้ดีว่า เจ้าหน้าที่เลือกตั้งในทุกเทศมณฑลพยายามรักษากฎระเบียบ และเฉพาะผู้ที่มีสิทธิเท่านั้นจึงจะโหวตได้” เฮนสลีย์-รอบิน กล่าว
ด้านบริษัท Cyabra ซึ่งใช้เอไอในการตรวจจับข้อมูลบิดเบือนออนไลน์ ระบุเมื่อวันจันทร์ (4 พ.ย.) ว่า มีบัญชีผู้ใช้ X รายหนึ่งที่มีผู้ติดตามประมาณ 117,000 คนเป็นตัวการแพร่คลิปวิดีโอปลอมที่พยายามทำให้เห็นว่ามีการทำลายบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ซึ่งลงคะแนนโหวตให้ ทรัมป์
ที่มา : รอยเตอร์