เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - โพลเลือกตั้ง NBC ทั่วประเทศโค้งสุดท้ายก่อนเปิดคูหาวันอังคาร (5 พ.ย.) พบรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส และอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ มีคะแนนเท่ากัน 49% เหลืออเมริกันชนอีก 2% ที่บอกยังไม่ตัดสินใจ หลังโพลก่อนหน้ามีอเมริกันชนถึง 70% เชื่อ "ทรัมป์จะไม่ยอมรับผลเลือกตั้งถ้าแพ้" รวมสุดยอดเลือกตั้งสหรัฐฯ ตั้งแต่ไบเดนช็อกโลกขอถอนตัว ทรัมป์ฝ่ากระสุน ไปจนถึงไมค์ ไทสัน จะขึ้นสังเวียนชก เจค พอล หลังศึกทำเนียบขาวเรื่องนี้ต้องอ่าน
NBC News รายงานวานนี้ (3 พ.ย.) ว่า การเลือกตั้งสหรัฐฯ กำลังใกล้เข้ามาที่คูหาเลือกตั้งจะเปิดขึ้นในฝั่งตะวันออกสหรัฐฯ ที่มีเวลาเร็วกว่าฝั่งตะวันตก 3 ชม.ในวันอังคารที่ 5 พ.ย. ที่มีผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งจะออกไปใช้สิทธิ โพลโค้งสุดท้ายทั่วประเทศจาก NBC พบผู้สมัครทั้ง 2 พรรค รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส และอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ มีคะแนนเท่ากัน 49%
การเลือกตั้งที่ผลอยู่ในขั้น Wild Wild West และเชื่อว่าอาจมีความรุนแรงหลังการเลือกตั้ง อ้างอิงจากบีบีซีรายงานวันอาทิตย์ (3) มีอเมริกันชนราว 70% เชื่อว่าอดีตประธานาธิบดีทรัมป์จะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งหากว่าเขาแพ้ในวันอังคาร (5) อ้างอิงจากโพล CNN/SSRS poll เมื่อวันที่ 28 ต.ค.
NBC News พบว่าในโพลของตัวเอง แฮร์ริสนำ 20 จุด เสียงสนับสนุนจากประเด็นสิทธิสตรีด้านการยุติการตั้งครรภ์ ความได้เปรียบของแฮร์ริสต่อประเด็นที่สนับสนุนอเมริกันชนชั้นกลางได้มากกว่า รวมความตื่นตัวของเดโมแครตหรือเดมที่ระดมช่วยแฮร์ริสหลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ตัดสินใจถอนตัวหลังดีเบตแพ้รอบแรกกับคู่แข่งอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
ความวิตกของประชาชนอเมริกันที่มีความเชื่อว่า “ทรัมป์เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยสหรัฐฯ” โดยเฉพาะจากประเด็น "โปรเจกต์ 2025" (Project 2025 ) ที่อ้างว่าจะเป็นพิมพ์เขียวยุบหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เป็นต้นว่า กระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ ที่เด็กอเมริกันทุกคนต้องผ่านระบบ Common Core State Standards เพื่อจบการศึกษาระดับไฮสกูลที่เป็นการศึกษาขั้นต่ำที่อเมริกันชนจะใช้ในการสมัครงาน
ทรัมป์ไม่โดนสอบสวนในการใช้อำนาจรัฐ เปิดการลิดรอนสิทธิผู้หญิงสตรีและ LGBTQ+ แอฟริกันอเมริกันและชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ในอเมริกา การทำให้พรมแดนสหรัฐฯ มีความเข้มแข็งตามนโยบายต้านผู้อพยพ
ในขณะที่ฝ่ายพรรครีพับลิกันนั้นชี้ว่า พรรคเดโมแครตเอื้อผู้อพยพให้ทะลักเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย อีลอน มัสก์ ตัวตั้งตัวตีผู้สนับสนุนทรัมป์ทวีตรายวันพร้อมแจก 1 ล้านดอลลาร์รายวันและโดนศาลเรียกตัว อาจมองได้ว่า มหาเศรษฐีใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งเทียบกับการระดมทุนจากคนทั่วไปบริจาค 20 ดอลลาร์
อีลอน มัสก์ ทวีตล่าสุดวันนี้ (4 พ.ย.) เรียกร้องให้ออกไปเลือกตั้งโดยกล่าวว่า “โหวต โหวตเพื่อกระรองพีนัท (Pnut)! โหวตเพื่อเสรีภาพ! โหวตเพื่ออิสรภาพ!”
และส่งผลทำให้หนึ่งในผู้สนับสนุน GOP (พรรครีพับลิกัน) ชื่อดัง วาเลนตินา โกเมซ (Valentina Gomez)ได้ทวีตตอบมัสก์พร้อมภาพตัวเองถือปืนยืนข้างรถไซเบอร์ทรัคว่า “เพื่อปืนและรถกันกระสุน” เรียกเสียงฮือฮาไปทั่ว
ผลโพล NBC ชี้ว่า ส่วนทรัมป์นั้นพบว่าในโพลระบุว่า 2 ใน 3 ของผู้มีสิทธิออกเสียงชี้ว่า อเมริกากำลังเดินหน้าผิดทิศทางในสมัยประธานาธิบดี โจ ไบเดน เมื่อเทียบกับสมัยของทรัมป์
ตัวแทนพรรครีพับลิกันได้อานิสงส์สนับสนุนด้านนโยบายเศรษฐกิจ ปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม โพลชี้ว่า เหลืออเมริกันชนอีก 2% ที่บอกยังไม่ตัดสินใจ
เลือกตั้งสหรัฐฯ หนนี้ไม่ธรรมดามีสีสันที่คนดังฮอลีวูดและโชว์บิสของอเมริกาและมหาเศรษฐีประกาศตัวสนับสนุนผู้สมัครทั้งเดโมแครตและพรรครีพับลิกันเป็นต้นว่า เทเลอร์ สวิฟต์ และโอปราห์ วินฟรีย์ ประกาศตัวสนับสนุน กมลา แฮร์ริส ขณะที่เจ้าของเทสลา อีลอน มัสก์ และเจค พอล (Jake Paul) อินฟลูยูทูบเบอร์คู่ชกมฤตยูดำ ไมค์ ไทสัน และนักมวยปล้ำอาชีพ โฮล์ก โฮแกน (Hulk Hogan) ประกาศยืนอยู่ข้าง โดนัลด์ ทรัมป์
และฮือฮามากขึ้นเมื่อไฟต์ดวลกำปั้นระหว่าง ไมค์ ไทสัน และเจค พอล มีกำหนดขึ้นหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ พอดี โดยจะขึ้นชกในวันที่ 15 พ.ย. ที่จะถึงโดยทั้งคู่ต่างประกาศว่า "ชกจริง"
สกายนิวส์ของอังกฤษรายงานว่าทั้งม้าศึกพรรคเดโมแครต โจ ไบเดน ต้องยอมประกาศถอนตัวอย่างลูกผู้ชายหลังแพ้ดีเบตทางโทรทัศน์เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.
และเป็นการเลือกตั้งฝ่ากระสุนไม่ต่างจากสมัย JFK เมื่อโทมัส ครุกส์ (Thomas Crooks) วัย 20 ปีส่องปืนไรเฟิลจากหลังคาตรงข้ามเวทีหาเสียงยิงไป 8 นัดทำอดีตผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ถึงขั้นเลือดออกที่บริเวณใบหูและถูกซีเครทเซอร์สวิสตะครุบตัวให้หมอบกับพื้นเวที ก่อนชูมือกำหมัดตะโกน “สู้ สู้ สู้” และตามมาด้วยความพยายามเพื่อลอบสังหารทรัมป์อีก 2 ครั้งหลังจากนั้น
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังกลายเป็นอดีตประธานาธิบดีอเมริกันที่เป็นผู้ต้องหาหลังศาลนิวยอร์กตัดสินให้มีความผิดในคดีอื้อฉาวดาราหนังผู้ใหญ่ สตอร์มี แดนเนียล เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. กระทำความผิด 34 ข้อหามีอิทธิพลเหนือการเลือกตั้งปี 2016 ในการเลือกตั้งที่เขาชนะสมัยแรก
การเลือกตั้งยังมีสีสันในวาทะการเมืองร้อนแรงเป็นต้นว่า “ผู้หญิงไร้ลูกเลี้ยงแมว” หรือ Childless cat ladies ที่มาจากฝั่งพรรครีพับลิกันที่เป็นฝ่ายโปรไลฟ์ หรือไม่สนับสนุนการยุติการตั้งครรภ์ในอเมริกา
คู่ชิงทรัมป์ ส.ว.รัฐโอไฮโอ เจดี แวนซ์ ใช้วาทะนี้เพื่อโจมตีแฮร์ริสและเหล่าเดโมแครตและผู้หญิงที่เรียกร้องสิทธิการยุติการตั้งครรภ์ ในเวลานั้นเขาเปิดฉากโจมตีอย่างมีสีสันว่า “อนาคตของเดโมแครตจะอยู่ภายใต้เงื้อมมือของกลุ่มผู้หญิงไร้บุตรเลี้ยงแมวทั้งหลาย”
สะท้อนก่อนหน้าที่ฮือฮาไปทั่วผ่านจอดีเบต เมื่ออดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อ้างว่า ผู้อพยพเฮติในรัฐโอไฮโอกินสัตว์เลี้ยงของชาวอเมริกัน
และความอื้อฉาวโดยเฉพาะประเด็นผู้อพยพยังกลายเป็นประเด็นเมื่อ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีพันล้านไฮเทคอเมริกัน เจ้าของเทสลา และบริษัทสเปซ X ได้ประกาศตัวสนับสนุนทรัมป์กลายเป็น Dark MAGA หรือไม่ต่างจาก Darth Vader ตามสีหมวก Make America Great Again ที่มัสก์สวมขึ้นเวทีครั้งแรกร่วมกับทรัมป์ในการเปิดตัวที่รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นเวทีที่ทรัมป์เกือบโดนลอบสังหาร
มัสก์ที่มีความคิดต่อต้านผู้อพยพเข้าสหรัฐฯ สนับสนุนพรมแดนทางใต้แข็งแกร่งและต่อต้านรัฐบลูสเตทแคลิฟอร์เนียและผู้ว่าการรัฐ แกวิน นิวซอม ที่เคยเป็นฐานบริษัทเทสลาและบริษัททวิตเตอร์หรือ X ในเวลาต่อมา
DW News ของเยอรมนีรายงานวันเสาร์ (2) ชี้ว่า มัสก์ซึ่งเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม X แพร่กระจายเฟกนิวส์ ทฤษฎีสมคบคิด Deep State หรือ “มือที่มองไม่เห็น” ที่เชื่อว่าเป็นอำนาจมืดภายในวอชิงตัน สื่อเยอรมนีชี้ว่า มัสก์มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงความเห็นสาธารณะต่อการเลือกตั้งสหรัฐฯ ว่า ดีหรือร้าย และอาจถึงขั้นทำให้ทิศทางผลเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงได้
บีบีซีของอังกฤษรายงานวานนี้ (3) ว่า เฟกนิวส์ ข่าวลือ ข้อมูลเท็จ และคลิปปลอม สร้างความไม่เชื่อมั่นในกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งและดิสเครดิตทางการเมืองต่อตัวผู้สมัครในการเลือกตั้งที่กำลังจะเปิดฉากในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
สหรัฐฯ เปิดเผยว่า มีต่างชาติรวม “รัสเซีย” เป็นตัวการแพร่กระจายข่าวลือและคลิปเพื่อป่วนเลือกตั้งครั้งสำคัญนี้ มีคลิปแสดงผู้อพยพเฮติเดินทางมาที่คูหาเลือกตั้งล่วงหน้าในรัฐจอร์เจีย
บีบีซีค้นพบหลักฐาน รวมถึงที่อยู่ปลอม และรูปเก่าที่ชี้ไปว่าเป็น “คลิปปลอม” และในวันศุกร์ (1) เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันว่าเป็นคลิปปลอมที่ทำโดย “รัสเซีย”