ผู้นำสูงสุดอิหร่านลั่นชำระแค้นทั้งอิสราเอลและอเมริกา ขณะที่วอชิงตันประกาศเครื่องบินทิ้งระเบิดบี-52 ถึงตะวันออกกลางแล้วและพร้อมดำเนินการเพื่อปกป้องพลเมืองและผลประโยชน์ของประเทศจากการโจมตีของเตหะรานและเหล่าพันธมิตร
อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ประกาศเมื่อวันเสาร์ (2 พ.ย.) ว่า การตอบโต้ของเตหะรานจะเป็นการชำระแค้นทั้งสำหรับตนเองและพันธมิตร และสำทับว่า ทั้งอเมริกาและรัฐยิวจะได้รับการตอบโต้อย่างรุนแรง
ทั้งนี้ เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว (26 ต.ค.) อิสราเอลโจมตีที่ตั้งทางทหารหลายแห่งในอิหร่านที่มีทหารเสียชีวิต 4 นาย เพื่อเอาคืนที่เตหะรานยิงขีปนาวุธใส่ราว 200 ลูกเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งเป็นการตอบโต้ที่อิสราเอลสังหารผู้นำฮิซบอลเลาะห์และฮามาสก่อนหน้านั้น
ด้านอิสราเอลเตือนเมื่อปลายเดือนที่แล้วไม่ให้อิหร่านตอบโต้กลับ ขณะที่นักวิเคราะห์หลายคนลงความเห็นว่า การโจมตีของอิสราเอลทำให้ระบบป้องกันภัยทางอากาศและโรงงานผลิตขีปนาวุธของอิหร่านเสียหาย และอิสราเอลอาจโจมตีอิหร่านซ้ำในขอบเขตที่กว้างขึ้น
ขณะเดียวกัน กองบัญชาการทหารด้านกลางของสหรัฐฯ (US CENTCOM) ซึ่งรับผิดชอบดูแลภูมิภาคตะวันออกกลางและประเทศโดยรอบ โพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อวันเสาร์ว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดบี-52 ของสหรัฐฯ ได้เดินทางถึงตะวันออกกลางแล้ว หลังจากก่อนหน้านั้น 1 วัน วอชิงตันประกาศว่า กำลังส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด เครื่องบินขับไล่ เครื่องบินบรรทุกน้ำมันสำหรับเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ และเรือพิฆาตติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธทิ้งตัวไปยังภูมิภาคดังกล่าว
พลตรีแพต ไรเดอร์ โฆษกเพนตากอน แถลงว่า หากอิหร่าน พันธมิตร หรือตัวแทนใช้โอกาสนี้โจมตีพลเมืองหรือผลประโยชน์ของอเมริกาในตะวันออกกลาง อเมริกาจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อปกป้องพลเมืองของประเทศ
ยุคมืดที่สุดของกาซา
นับจากปลายเดือนกันยายน อิสราเอลทำสงครามเต็มรูปแบบกับฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน โดยที่ยังคงเดินหน้าถล่มโจมตีทางอากาศแบบแหลกลาญใส่ฉนวนกาซา รวมทั้งส่งกำลังภาคพื้นดินออกปราบปรามกวาดล้างกลุ่มฮามาสที่เป็นผู้จุดไฟสงครามในกาซาด้วยการบุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับจากวันที่ 6 เดือนที่ผ่านมา อิสราเอลเปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่ทั้งทางอากาศและภาคพื้นดินใส่บริเวณตอนเหนือของกาซา โดยเฉพาะในเขตค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลีย โดยอ้างว่า เพื่อป้องกันไม่ให้ฮามาสซ่องสุมกำลังกลับมาใหม่
เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงว่า ได้รับรายงานที่น่ากังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับการโจมตีศูนย์สุขภาพ ชัยค์ รัดวาน เมื่อวันเสาร์ ขณะที่พ่อแม่พาลูกๆ ไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 คน ซึ่ง 4 คนในจำนวนนี้เป็นเด็ก
เทดรอสไม่ได้ระบุว่า เป็นฝีมือฝ่ายใด แต่แหล่งข่าวในหน่วยงานป้องกันภัยพลเรือนในกาซาเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า เฮลิคอปเตอร์ 4 ใบพัดของอิสราเอลยิงขีปนาวุธ 2 ลูกใส่กำแพงศูนย์สุขภาพดังกล่าว
ด้านกองทัพอิสราเอลออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้โจมตีใกล้บริเวณนั้นขณะเกิดเหตุ
อย่างไรก็ดี แคทเธอลีน รัสเซลล์ ผู้อำนวยการกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) แถลงว่า ในช่วง 48 ชั่วโมงจนถึงวันเสาร์ มีเด็ก 50 คนเสียชีวิตในจาบาเลีย และสำทับว่า การโจมตีค่ายผู้อพยพจาบาเลีย คลินิกวัคซีน และเจ้าหน้าที่ยูนิเซฟ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ตอกย้ำผลกระทบร้ายแรงจากการโจมตีพลเรือนไม่เลือกในฉนวนกาซา และอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่มืดมนของช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุดในสงครามสุดเลวร้ายในกาซาขณะนี้
ทางฝ่ายกองทัพอิสราเอลระบุว่า สามารถสังหารนักรบนับสิบรอบจาบาเลีย และมีจรวด 2 ลูกยิงจากบริเวณดังกล่าวเข้าสู่อิสราเอลเมื่อวันเสาร์ ซึ่งถือเป็นการโจมตีครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์
กระทรวงสาธารณสุขในกาซาที่มีกลุ่มฮามาสเป็นผู้บริหาร ออกรายงานอัปเดตตัวเลขในวันอาทิตย์ (3) ระบุว่า ในฉนวนกาซามีผู้ถูกฆ่าตายไปอย่างน้อย 43,341 คน และบาดเจ็บ 102,105 คน ในสงครามยาวนานกว่า 1 ปีที่อิสราเอลบุกเข้ากวาดล้างในดินแดนแห่งนี้ โดยที่ในรอบ 24 ชั่วโมง มีผู้เสียชีวิตไป 27 คน
สำหรับสถานการณ์ในเลบานอนนั้น แหล่งข่าวด้านความมั่นคงคนหนึ่งเผยว่า กองทัพเรืออิสราเอลได้เปิดปฏิบัติการพิเศษในเมืองบาทรูน ทางเหนือของเลบานอนเมื่อเช้าวันศุกร์ (1 พ.ย.) และจับผู้ต้องสงสัยเป็นสายลับอาวุโสของฮิซบอลเลาะห์ได้ 1 คน และนำกลับไปสอบสวนที่อิสราเอล
วันเสาร์ สำนักนายกรัฐมนตรีเลบานอนออกคำแถลงว่า นายกรัฐมนตรีนาจิบ มิคาติ เรียกร้องให้เปิดการสอบสวนกรณีอิหมัด อัมฮาซ ซึ่งเป็นพลเมืองเลบานอนถูกลักพาตัวไปจากเมืองบาทรูน โดยผู้นำเลบานอนได้หารือกับกองทัพและเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในเลบานอน (ยูนิฟิล) รวมทั้งขอให้อับดัลลาห์ บู ฮาบิบ รัฐมนตรีต่างประเทศ ร้องเรียนด่วนต่อคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)