สำนักงานเสมียนแห่งลอเรล เคาน์ตี ต้องถอดเครื่องลงคะแนนเลือกตั้งแบบอิเล็กทรอนิกส์ไม่ให้ประชาชนใช้งานเมื่อวันพฤหัสบดี (31 ต.ค.) ในวันแรกของการเลือกตั้งล่วงหน้าศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในรัฐเคนทักกี หลังปรากฏวิดีโอบนสื่อสังคมออนไลน์ อ้างว่าพวกเขามีความตั้งใจโหวตเลือก โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากรีพับลิกัน แต่คะแนนกลับไปขึ้นให้กับ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต
วิดีโอของเหตุการณ์ถูกส่งต่ออย่างกว้างขวางในทันทีและหลายหมื่นครั้งบนสื่อสังคมออนไลน์ ขณะที่บนสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ มักปรากฏคำกล่าวอ้างที่ไม่มีหลักฐานยืนยันเกี่ยวกับการโกงเลือกตั้งอย่างกว้างขวาง ที่ได้รับการหนุนหลังจากทรัมป์ และบรรดาผู้สนับสนุนมานานหลายปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่ที่เขาพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งปี 2020
ทอรี บราวน์ เสมียนเทศมนฑลลอเรล เคาน์ตี สมาชิกรีพับลิกัน ให้สัมภาษณ์ในวันพฤหัสบดี (30 ก.ย.) ว่าเจ้าหน้าที่ของเขาไม่ปล่อยให้ประเด็นปัญหานี้เกิดขึ้นซ้ำอีก โดยได้ปลดเครื่องลงคะแนนนี้จากการใช้งาน เพื่อทำการตรวจสอบทันทีที่มีคำกล่าวอ้างดังกล่าว
ทีมสืบสวนจากสำนักงานอัยการสูงสุดของรัฐเคนทักกี ทำตามคำขอของ บราวน์ เดินทางไปยังสำนักงานเสมียนเทศมนฑลในช่วงเย็นวันพฤหัสบดี (31 ต.ค.) เพื่อตรวจสอบเครื่องลงคะแนนดังกล่าวแล้ว
บราวน์ อ้างว่าปัญหาเกิดขึ้นครั้งที่ผู้ใช้ไปสัมผัสโดนพื้นที่ตรงกลางระหว่าง 2 ตัวเลือก "ผมเกลียดที่ได้เห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นใน ลอเรล เคาน์ตี" เขาโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก "เรามุ่งมั่นที่จะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่เที่ยงตรง มั่นคงและปลอดภัย ที่เราภูมิใจมอบให้พลเมืองของเรา"
อย่างไรก็ตาม ในคลิปความยาว 16 วินาที ที่บันทึก ณ หน่วยเลือกตั้งแห่งหนึ่ง ภายในอาคารศาลลอเรล เคาน์ตี ที่ใช้ศูนย์ลงคะแนนล่วงหน้า เป็นภาพมือของบุคคลรายหนึ่งพยายามจิ้มหน้าจอของเครื่องลงคะแนน บริเวณที่มีชื่อของ ทรัมป์ ปรากฏอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่มันไม่ตอบสนอง และท้ายที่สุดแล้วเครื่องหมายติ๊กถูกกลับไปขึ้นบริเวณชื่อของ กมลา แฮร์ริส แทน
(ที่มา : เฮรัลด์-ลีดเดอร์)