เกาหลีเหนือจะสนับสนุนรัสเซียในความขัดแย้งยูเครนตราบที่มอสโกต้องการ จากคำประกาศกร้าวของโช ซอน-ฮุย รัฐมนตรีต่างประเทศ พร้อมระบุเปียงยางไม่มีความสงสัยแม้แต่น้อย ว่าท้ายที่สุดแล้ว รัสเซีย จะได้รับชัยชนะ
ระหว่างพบปะกับ เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ในกรุงมอสโกเมื่อวันศุกร์(1พ.ย.) โช เน้นย้ำว่า คิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ "มอบคำสั่งให้เรา สนับสนุนและช่วยเหลือกองทัพรัสเซียและประชาชนชาวรัสเซียอย่างหนักแน่นและเต็มกำลัง ในสงครามศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา"
รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือระบุว่า เปียงยางไม่มีข้อสงสัยเลยว่า ภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน "กองทัพรัสเซียและประชาชนชาวรัสเซีย จะบรรลุเป้าหมายชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ ในการต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิอธิปไตยและผลประโยชน์ด้านความมั่นคง" พร้อมบอกต่อว่า "เราเน้นย้ำว่าเราจะยืนหยัดอย่างมั่นคงเสมอเคียงข้างสหายรัสเซียของเรา จนกว่าจะถึงวันแห่งชัยชนะ"
เธอยังกล่าวด้วยว่ารัสเซียกับเกาหลีเหนือกำลังพัฒนาความสัมพันธ์ในทุกขอบเขต ในนั้นรวมถึงด้านกลาโหม บนพื้นฐานจองสนธิสัญญาประวัติศาสตร์ ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุม(Comprehensive Strategic Partnership) ที่มอสโกและปักกิ่งลงนามเมื่อเดือนมิถุนายน
"เวลานี้ทั้ง 2 ประเทศ กำลังดำเนินการภารกิจแห่งการยกระดับความร่วมมือเพิ่มเติมในด้านจุดยืนนโยบายต่างประเทศของเรา และเดินหน้าปฏิสัมพันธ์กันมากยิ่งขึ้นในทุกขอบเขต เช่นเดียวกับการตอบสนองร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ต่อประเด็นระหว่างประเทศต่างๆนานา ในทุกๆเวทีนานาชาติ" รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือระบุ
ขณะเดียวกัน ลาฟรอฟ อวดอ้างเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่าง 2 ชาติ โดยบอกว่ามันมาถึงจุดสูงสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมกันนั้นเขาได้กล่าวขอบคุณเปียงยาง "สำหรับจุดยืนโดยหลักการในสถานการณ์ต่างๆในยูเครน" ซึ่งเขากล่าวโทษว่าเป็นผลมาจากการแผ่ขยายอาณาเขตของนาโต และยุทธการยุยงเคียฟให้ "กำจัดทุกๆอย่างที่เป็นรัสเซียในประเทศ"
สนธิสัญญาเกาหลีเหนือ-รัสเซีย ซึ่งรัฐสภารัสเซียให้สัตยาบันรับรองเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุไว้ว่าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกรุกราน อีกฝ่ายควรมอบควมช่วยเหลือทางทหารและความช่วยเหลืออื่นๆ ด้วยทุกวิถีทางที่มี โดยปราศจากความล่าช้าใดๆ"
ยูเครนและบรรดาประเทศตะวันตกต่างกล่าวหาเกาหลีเหนือส่งทหารไปยังรัสเซีย และมีความกังวลว่าท้ายที่สุดแล้วกำลังพลเหล่านั้นจะเข้าร่วมในความขัดแย้ง เกาหลีเหนือปฏิเสธคำกล่าวหาดังกล่วาว โดยบอกว่าเป็นความพยายามทำภาพลักษณ์ของพวกเขาแปดเปื้อน
อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธคำกล่าวอ้างนี้ พร้อมระบุรายละเอียดความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ ที่ไม่ธุระของคนอื่น
(ที่มา:อาร์ทีนิวส์)