รัฐบาลเกาหลีเหนือประกาศกร้าววันนี้ (2 พ.ย.) ว่าเปียงยาง “ไม่มีทางเลือก” นอกจากจะต้องเสริมเขี้ยวเล็บป้องกันตนเองต่อไป พร้อมกล่าวหาสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ว่าเป็นตัวการที่ผลักคาบสมุทรเกาหลีเข้าใกล้ “สงคราม” เข้าไปทุกขณะ
“สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK) จะยกระดับความพยายามเชิงปฏิบัติเพื่อป้องปรามภัยคุกคามทางทหารจากกองกำลังศัตรู และคงไว้ซึ่งดุลอำนาจในภูมิภาคนี้” สำนักข่าว KCNA อ้างคำพูดของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ
โฆษกโสมแดงผู้นี้ยังโทษวอชิงตันและโซลว่า “วางแผนก่อสงครามมากกว่า 20 ครั้ง” ในปีนี้ ซึ่งทำให้เปียงยางเองไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องใช้ความพยายามป้องปรามไม่ให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้น
ขณะเดียวกัน น.ส.คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของผู้นำ คิม จองอึน ก็ได้ออกมาประณามตอบโต้เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติที่วิจารณ์การยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ครั้งล่าสุดของโสมแดง โดยเธอย้ำว่าการทดสอบขีปนาวุธเป็นไปเพื่อ “ป้องกันตนเอง”
เกาหลีเหนือโอ้อวดแสนยานุภาพทางทหารให้ทั่วโลกเห็นอีกครั้งเมื่อวันพฤหัสบดี (31 ต.ค.) โดยยิงทดสอบขีปนาวุธ ICBM เชื้อเพลิงแข็งรุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า ฮวาซอง-19 (Hwasong-19)
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่เปียงยางเริ่มส่งทหารนับหมื่นนายเข้าไปช่วยรัสเซียทำสงครามในยูเครน จนเรียกเสียงประณามรุนแรงจากทั้งสหรัฐฯ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ยุโรป รวมไปถึงเลขาธิการยูเอ็น
ขีปนาวุธลูกนี้พุ่งไต่ระดับความสูงยิ่งกว่าจรวดโสมแดงที่ผ่านๆ มา ตามข้อมูลจากเกาหลีเหนือรวมถึงกองทัพสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นที่เฝ้าติดตามเส้นทางของมันไปจนถึงในอวกาศ ก่อนที่มันจะพุ่งตกลงสู่เป้าหมายในมหาสมุทรแปซิฟิกระหว่างญี่ปุ่นและรัสเซีย
เมื่อวานนี้ (1) กองทัพอากาศเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ได้เปิดการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงครั้งแรกที่มีการนำโดรนโกลบอลฮอว์ก (Global Hawk) และโดรนพิฆาตรีปเปอร์ (Reaper) เข้ามาร่วมฝึกทิ้งระเบิดนำวิถีด้วย GPS โจมตีเป้าหมายศัตรู
ที่มา : รอยเตอร์