เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - รัฐบาลตอลิบานวันจันทร์ (28 ต.ค.) ประกาศใช้กฎใหม่ควบคุมพฤติกรรมผู้หญิงสั่งห้ามส่งเสียงให้ผู้หญิงคนอื่นได้ยิน ลิดรอนสิทธิมนุษยชนเพศหญิงขั้นพื้นฐาน นักสิทธิมนุษยชนเตือนผู้หญิงอัฟกันตกอยู่ในอันตรายโดนโดดเดี่ยวห้ามสนทนากับหญิงอื่น ห้ามท่องคัมภีร์อัลกุรอานส่งเสียง ห้ามร้องเพลง หลังก่อนหน้าโดนห้ามไปโรงเรียน ห้ามเดินทางไปต่างประเทศ และห้ามรวมกลุ่มในที่สาธารณะ และต้องสวมผ้าคลุมหน้าบูร์กา (burka) ที่หลายชาติตะวันตกแบนรวมจีน ตลอดเวลา
เอบีซีนิวส์ของออสเตรเลียรายงานวานนี้ (31 ต.ค.) ว่า ซูไบดา อัคบาร์ (Zubaida Akbar) นักสิทธิมนุษยชนต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีอัฟกานิสถานจาก Femena ได้ตำหนิกฎใหม่ของตอลิบานว่า มีนโยบายจำกัดสิทธิผู้หญิงอัฟกันมากขึ้น
เธอกล่าวว่า คำสั่งใหม่ที่ออกมาในวันจันทร์ (28 ต.ค.) จากกระทรวงสนับสนุนคุณธรรมและการป้องกันความเสื่อมทรามอัฟกานิสถาน (minister for the promotion of virtue and prevention of vice) นั้นแท้จริงเป็นความพยายามที่วางแผนเพื่อคุกคามผู้หญิงและจำกัดพื้นที่ผู้หญิงสามารถรวมตัว
“กฎใหม่นี้เป็นการจำกัดความสามารถผู้หญิงในการรวมตัว เคลื่อนที่ และการพบปะจากการที่ยังคงหวาดกลัว”
และเสริมว่า “ผู้หญิงอัฟกันที่ผ่านมาใช้เสียงของตัวเองเพื่อให้ทั่วโลกหันมาให้ความสนใจประเทศอัฟกานิสถานของเธอเหล่านั้น”
นักสิทธิมนุษยชนเพื่อสตรีอัฟกานิสถานชี้ว่า “ตอลิบานอย่างเห็นได้ชัดรู้สึกหวาดวิตกและจำเป็นต้องออกมาตรการสุดขั้วออกมา”
ทั้งนี้ เดลีเทเลกราฟของอังกฤษรายงานว่า รัฐบาลตอลิบานวันจันทร์ (28 ต.ค.) สั่งห้ามเพศหญิงห้ามส่งเสียงให้หญิงอื่นได้ยินในการบังคับใช้กฎหมายอิสลามที่เข้มงวด
รัฐมนตรีตอลีบาน คาลิด ฮานาฟี (Khalid Hanafi) กล่าวว่า “ถึงแม้เมื่อผู้หญิงกำลังสวดอยู่และมีผู้หญิงคนอื่นเดินผ่าน เธอต้องไม่สวดให้ดังพอที่หญิงอื่นๆ เหล่านั้นได้ยิน”
และเขาชี้ว่า “หญิงเหล่านี้จะสามารถได้รับอนุญาตให้ร้องเพลงได้อย่างไร หากว่าพวกเธอไม่แม้จะได้รับอนุญาตให้ได้ยินเสียงซึ่งกันและกันในระหว่างการสวดภาวนา”
รัฐมนตรีตอลิบานแถลงว่า “กฎใหม่ทั้งหลายจะบังคับใช้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน และพระผู้เป็นเจ้าจะช่วยพวกเราในทุกก้าวย่างที่พวกเราได้ดำเนิน”
เดลีเทเลกราฟรายงานว่า จากการที่เมื่อกลางเดือนตุลาคมนี้ รัฐบาลตอลิบานสั่งห้ามโทรทัศน์เผยแพร่ภาพคนกำลังเคลื่อนไหวส่งผลทำให้รัฐมนตรีกระทรวงสนับสนุนคุณธรรมอัฟกานิสถานต้องส่งสารผ่านเสียงบันทึกที่ทำการบันทึกล่วงหน้าแทนที่จะเป็นการเผยแพร่ทางโทรทัศน์เสมือนทำให้กรุงคาบูลกำลังหลุดกลับไปสู่ยุคดึกดำบรรพ์อย่างไม่ต้องสงสัย
ทั้งนี้ หนึ่งในนักเคลื่อนไหวได้แสดงความเห็นกับสื่ออังกฤษว่า “ผู้หญิงที่เป็นคนเดียวในการช่วยเหลือทั้งครอบครัวที่ต้องออกไปซื้อขนมปัง ขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ หรือต้องการแสดงตัวจะที่ทำเช่นไรหากว่าไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้?”
หนึ่งในสตรีอัฟกันในกรุงคาบูลให้สัมภาษณ์เดลีเทเลกราฟว่า “ไม่ว่าอะไรที่เขา (รัฐมนตรี) พูดคือการทรมานพวกเราทางจิตประสาท”
พร้อมกันนี้ สื่ออังกฤษได้แสดงรายการคำสั่งรัฐบาลตอลิบานที่ห้ามยาวเหยียดต่อผู้หญิงอัฟกัน
#ขับรถ
#พูดในที่สาธารณะ
#เปล่งเสียงดังในบ้านของตัวเอง
#เดินทางตามลำพัง
#มีโทรศัพท์มือถือ
#สวมเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาด
#สวมรองเท้าส้นสูง
#ไปโรงเรียนระดับมัธยมปลายและมหาวิทยาลัย
#ร้องเพลง
#อ่านคัมภีร์อัลกุรอานเสียงดังในที่สาธารณะ
#มองชายแปลกหน้า
#ร่วมการประท้วง
#ไปยิม
#ไปสวนสาธารณะ
#ทำงานภาครัฐ
#นั่งรถแท็กซี่
#เดินทางไปต่างประเทศ
#เปิดเผยใบหน้าในที่สาธารณะ
#สนทนากับแพทย์ที่เป็นชาย
#เล่นกีฬา