เอเจนซีส์ - ผู้พิพากษาศาลสหรัฐฯ วานนี้ (31 ต.ค.) ว่ากลุ่ม America PAC ของอีลอน มัสก์ระหว่างนี้ยังสามารถแจกเงิน 1 ล้านดอลลาร์ในรัฐสวิงสเตทต่อระหว่างรอศาลรัฐบาลกลางรับเรื่อง หลังโดนอัยการเขตฟิลาเดลเฟียฟ้องซื้อเสียงโจ่งครึ่ง แต่วิบากยังไม่จบมีสิทธิถึงขั้นเสียสัญชาติอเมริกันหลังใช้วีซ่านักเรียนลอบทำงานในสหรัฐฯ ผิดกฎหมายแต่กลับไม่เคยลงทะเบียนเรียนจริง
บีบีซีของอังกฤษรายงานวันนี้ (1 พ.ย.) ว่า อัยการเขตฟิลาเดลเฟีย ลอว์เรนซ์ คราสเนอร์ (Lawrence Krasner) ฟ้องมัสก์สัปดาห์นี้หลังแจกเงินสด 1 ล้านดอลลาร์ทุกวันในรัฐสวิงสเตท พร้อมยืนกรานว่า ต้องยุติทันทีก่อนการเลือกตั้งวันที่ 5 พ.ย.
อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาศาสรัฐเพนซิลเวเนีย แองเจโล ฟ็อกเลียตตา (Angelo Foglietta) ออกคำสั่งในการพิจารณาคดีวันพฤหัสบดี (31 ต.ค.) ว่า ระหว่างกระบวนการรอว่าศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะรับคดีนี้หรือไม่ส่งผลทำให้ต้องคดีนี้ต้องหยุดลงชั่วคราวและกลุ่ม America PAC ของอีลอน มัสก์ ยังคงสามารถเดินหน้าแจกเงินต่อไปได้
สื่ออังกฤษชี้ว่า อย่างไรก็ตามไม่มีทิศทางว่า คดีจะสามารถตัดสินได้ทันก่อนวันเลือกตั้งใหญ่สหรัฐฯ ซึ่งรัฐสวิงสเตททั้ง 7 รัฐ รวมรัฐเพนซิลเวเนียถือเป็นรัฐตัดสินว่าใครจะสามารถเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนถัดไประหว่างอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส
กลายเป็นการใช้ช่องทางเตะถ่วงทางกฎหมายของมัสก์ที่ขอให้คดีเข้าตัดสินในศาลรัฐบาลกลางแทน โดยเขาเพิ่งเริ่มต้นประกาศแจกในเดือนตุลาคม และระหว่างรอนั้นกลุ่ม America PAC ประกาศวันพฤหัสบดี (31 ต.ค.) ว่า เดซี จากฟรีมองต์ รัฐนอร์ทแคโรไลนาได้รับเงิน 1 ล้านดอลลาร์
บีบีซีรายงานว่า อัยการฟิลาเดลเฟียฟ้องมัสก์ว่า กำลังดำเนินการลอตเตอรี่อย่างผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายสหรัฐฯ จะถือว่าผิดกฎหมายหากจ่ายให้คนออกไปลงทะเบียนเพื่อลงคะแนน แต่ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายยอมรับกับบีบีซีว่า วิธีการที่ America Pac ของมัสก์ประกาศแจกให้ออกไปลงเลือกตั้งเพื่อเรียกร้องให้คนในรัฐเหล่านั้นออกมาเพื่อลงทะเบียนสำหรับคำร้องต่อการสนับสนุนเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพการมีอาวุธปืน และมันอาจมองว่าอยู่ในโซนสีเทา
และหลังจากหนังสือพิมพ์สหรัฐฯ วอชิงตันโพสต์ได้รายงานเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ว่า ตามการรายงานของเดลีบีสต์เมื่อวันที่ 27 ต.ค ว่า สัญชาติอเมริกันของมัสก์ตกอยู่ในความเสี่ยงหากพบว่าได้เคยโกหกต่อรัฐบาลสหรัฐฯ หลังเคยแอบทำงานผิดกฎหมายระหว่างอยู่ในสหรัฐฯ ด้วยวีซ่านักเรียนเมื่อยุคปี 90 โดยอ้างแหล่งข่าวอดีตผู้ช่วยทางธุรกิจ เอกสารศาล และเอกสารบริษัท
ส่งผลทำให้มีผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย ไอรา เคิร์ซแบน (Ira Kurzban) อดีตประธานและที่ปรึกษาอาวุโสประจำสมาคมนักกฎหมายเข้าเมืองสหรัฐฯ ได้ให้ความเห็นกับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ “นี่เป็นการฉ้อฉลเพื่อเข้าประเทศ”
และเสริมต่อว่านี่จะทำให้เขาไม่สามารถเข้ามาได้และต้องถูกแบนถาวรจากอเมริกา เว้นแต่โทษจะได้รับการยกเว้น และยืนยันว่าการจ้างบุคคลที่ไม่มีสิทธิทำงานในสหรัฐฯ มีโทษตามกฎหมายรัฐบาลกลางสหรัฐฯ
ในการสอบสวนของวอชิงตันโพสต์พบว่า มัสก์ถูกรับเข้าระดับบัณฑิตศึกษาที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในปี 1995 แต่ไม่เคยลงทะเบียนเรียน แต่เขากลับใช้วีซ่านักเรียนไปทำงานบริษัทสตาร์ทอัปของตัวเองชื่อ Zip2
อ้างอิงจาก CNN ของสหรัฐฯ อีลอน มัสก์ เกิดในแอฟริกาใต้เชื้อสายมาจากบรรพบุรุษอังกฤษ และเขาได้สัญชาติแคนาดาจากแม่ซึ่งเป็นชาวแคนาดา และย้ายเข้ามาที่สหรัฐฯ เพื่อมาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียในปี 1992 และได้สัญชาติอเมริกันในอีก 10 ปีหลังจากนั้น อ้างอิงจากชีวประวัติ
“ผมมีวีซ่า J-1 ที่เปลี่ยนเป็นวีซ่า H1-B” มัสก์ทวีตและกล่าวว่า “พวกเขารู้สิ่งนี้ และพวกเขามีบันทึกทั้งหมดเกี่ยวกับผม การแพ้เลือกตั้งทำให้คนเหล่านั้นสิ้นหวัง”
มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเปิดเผยกับ CNN เดือนที่แล้วว่า อีลอน มัสก์ ได้รับการตอบรับให้ศึกษาต่อด้านวัสดุศาสตร์และวิศวกรรมที่สแตนฟอร์ดจริงแต่กลับไม่เคยมีประวัติการลงทะเบียนเรียนแต่อย่างใด