เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตและเหยื่ออุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบศตวรรษนี้ของสเปน ซึ่งทำให้หลายเมืองทางภาคตะวันออกของประเทศจมน้ำ และพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 95 คน โดยพื้นที่เสียหายหนักสุดคือ บาเลนเซีย พวกผู้เชี่ยวชาญระบุการที่มีผู้คนตายมากขนาดนี้ทั้งที่มีการออกคำเตือนฝนหนักล่วงหน้าบ่งชี้ว่าระบบเตือนภัยน้ำท่วมล้มเหลว ขณะเดียวกัน ทางด้านเอเชียก็กำลังเผชิญภัยธรรมชาติครั้งรุนแรง เมื่อไต้ฝุ่น “กองเร็ย” ขึ้นฝั่งไต้หวันแล้วในวันพฤหัสฯ (31 ต.ค.) ทำให้ฝนตกหนักและลมแรงทั่วเกาะ ล่าสุดพบผู้เสียชีวิต 1 คน
สเปนจัดส่งทหารราว 1,000 นาย สมทบกับตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงออกค้นหาผู้ที่ยังติดน้ำท่วมอยู่ตามที่ต่างๆ ตลอดจนร่างผู้เสียชีวิต ในแคว้นบาเลนเซีย ขณะที่ทั่วประเทศเริ่มระยะเวลาไว้อาลัยนาน 3 วันตั้งแต่วันพฤหัสฯ โดยที่ แองเจิล วิกเตอร์ รัฐมนตรีนโยบายดินแดน คาดว่า ยอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากยังมีผู้สูญหายจำนวนมาก
อุทกภัยใหญ่ที่สุดในรอบ 1 ชั่วอายุคนของสเปนครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันอังคาร (29) มีพายุฝนกระหน่ำหนักมากในบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ของประเทศ โดยเฉพาะที่เมืองบาเลนเซียและแคว้นโดยรอบ ทั้งนี้ ปริมาณฝนที่ตกลงมาภายในเวลาแค่ 8 ชั่วโมงเกือบเท่ากับปริมาณฝนตลอดทั้งปี ส่งผลให้มีกระแสน้ำเชี่ยวกรากและโคลนไหลท่วมเมืองต่างๆ
โดยจากการเปิดเผยของหน่วยบริการฉุกเฉิน AEMET ของสเปน ย่านซีวา ทางตะวันตกของบาเลนเซีย ช่วงเวลา 8 ชั่วโมงของวันอังคาร มีฝนตกหนักวัดปริมาณได้ถึง 491 มม. หรือเกือบเท่ากับสถิติปริมาณฝนที่ตกตลอดทั้งปี
เจ้าหน้าที่เผยว่า เฉพาะในย่านไพพอร์ตา ชานเมืองบาเลนเซีย มีผู้เสียชีวิตราว 40 คน ซึ่งรวมถึงแม่และทารกที่พลัดไหลไปตามกระแสน้ำ
ในวันพุธ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ช่วยเหลือผู้รอดชีวิตที่หนีขึ้นไปอยู่บนหลังคา รวมถึงค้นหาตามบ้านเรือนที่น้ำท่วมสูงถึงคอ
ถึงตอนเช้าวันพฤหัสฯ บ้านเรือนหลายหมื่นหลังยังไม่มีน้ำประปาและไฟฟ้าใช้ ถนนหลายสายเต็มไปด้วยซากรถยนต์และรถบรรทุกนับร้อยคันที่ถูกกระแสน้ำเชี่ยวกรากซึ่งทะลักท่วมฉับพลันพัดมากองรวมกัน
นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ที่เดินทางไปยังบาเลนเซียเมื่อวันพฤหัสฯ กล่าวว่า ภัยพิบัตินี้ยังไม่จบ และรัฐบาลจะจัดหาทรัพยากรสำคัญทั้งหมดเพื่อให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัยจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ อย่างยาวนานเท่าที่มีความจำเป็น
ด้าน อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานของคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งคือองค์กรบริหารของอียู บอกว่า สหภาพยุโรปเปิดใช้ระบบดาวเทียมโคเปอร์นิคัสเพื่อช่วยในการประสานงานของทีมกู้ภัยสเปน รวมทั้งยังเสนอให้ใช้กลไกป้องกันภัยพลเรือนเพื่อส่งการสนับสนุนเพิ่มเติมให้สเปน
ขณะเจ้าหน้าที่ในแคว้นบาเลนเซียเผยว่า ผู้รอดชีวิตถูกนำไปยังที่พักชั่วคราว เช่น สถานีดับเพลิง
รายงานระบุว่า การเดินทางด้วยรถไฟและเครื่องบินยังคงหยุดชะงักรุนแรง รถไฟด่วนระหว่างบาเลนเซียกับมาดริดจะระงับให้บริการอย่างน้อย 4 วัน
อุทกภัยครั้งนี้เป็นครั้งที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในสเปนนับจากปี 1973 ที่ประมาณการกันว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 150 คนในจังหวัดกรานาดา เมอร์เซีย และอัลเมเรีย
ฮันนาห์ โคลเกอ ศาสตราจารย์ด้านอุทกวิทยาของมหาวิทยาลัยรีดดิ้ง ในสหราชอาณาจักร ชี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจำนวนมากครั้งนี้เกิดขึ้นหลังมีคำเตือนว่า จะเกิดฝนตกรุนแรงมาก ซึ่งบ่งชี้ว่า ระบบเตือนภัยน้ำท่วมของบาเลนเซียล้มเหลว
ในอีกด้านหนึ่ง ทางฟากทวีปเอเชีย ไต้หวันรายงานว่า ไต้ฝุ่น “กองเร็ย” ได้ขึ้นฝั่งทางตะวันออกของเกาะแล้วเมื่อวันพฤหัสฯ นับเป็นพายุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี ทำให้มีฝนตกหนักและลมแรงทั่วเกาะ ประชาชนเกือบ 500,000 ครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ โรงเรียน ห้างร้าน ตลอดจนถึงตลาดหุ้นปิดทำการ และเที่ยวบินนับร้อยถูกยกเลิก
แผนกดับเพลิงรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นคนขับรถบรรทุกที่ขับชนต้นไม้ที่โค่นลงมา
ทรอปิคัล สตอร์ม ริสก์ระบุว่า ไต้ฝุ่นกองเร็ยอ่อนกำลังลงเมื่อคืนวันพุธ (30 ต.ค.) แต่ยังคงจัดเป็นเฮอร์ริเคนระดับ 4 มีความเร็วลมกว่า 250 กม./ชม. และสำนักงานภูมิอากาศไต้หวันระบุว่า เป็นไต้ฝุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ขึ้นฝั่งไต้หวันนับจากปี 1996
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอพี)