โฆษกรัฐบาลจีนระบุวันนี้ (30 ต.ค.) ว่า หาก โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ไต้หวันอาจ “ถูกทิ้ง” เนื่องจากวอชิงตันนั้นยึดถือนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” เสมอ
ทรัมป์ ซึ่งเวลานี้ยังคงมีคะแนนนิยมสูสีกับ กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครตชนิดหายใจรดต้นคอ เคยพูดระหว่างการหาเสียงหลายครั้งว่า ไต้หวันควร “จ่ายเงิน” เพื่อให้ได้รับการปกป้องจากสหรัฐฯ และยังวิจารณ์เกาะประชาธิปไตยแห่งนี้ว่า “ขโมย” ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ไปจากอเมริกาด้วย
เมื่อถูกสื่อมวลชนถามเกี่ยวกับคำขู่ของ ทรัมป์ ว่าจะขึ้นภาษีสินค้าจีนอย่างมหาโหดหากกล้าบุกไต้หวัน รวมถึงเรื่องที่ ทรัมป เรียกค่าคุ้มครองจากไทเป โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีนชี้ว่า คนไต้หวัน “รู้ดีอยู่แล้ว” ว่านโยบายของสหรัฐฯ คืออะไร
“สหรัฐฯ พยายามจะปกป้องหรือทำลายไต้หวัน ดิฉันเชื่อว่าเพื่อนร่วมชาติชาวไต้หวันส่วนใหญ่รู้ดี และคงจะใช้วิจารณญาณตัดสินได้ว่า สิ่งที่สหรัฐอเมริกายึดมั่นมาโดยตลอดก็คือ อเมริกาต้องมาก่อน (America First)” จู เฟิ่งเหลียน โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีน ระบุในงานแถลงข่าววันนี้ (30) โดยอ้างถึงวาทกรรมอันโด่งดังของ ทรัมป์ ที่สะท้อนให้เห็นว่าผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ต้องมาเหนือสิ่งอื่นใด
โฆษกหญิงผู้นี้ยังกล่าวด้วยว่า คนไต้หวันตระหนักดีอยู่แล้วว่า “ไต้หวันอาจจะเปลี่ยนจากเบี้ยหมากรุก (pawn) กลายเป็นลูกที่ถูกทิ้ง (discarded child) เมื่อไหร่ก็ได้”
สหรัฐฯ มีพันธกรณีตามกฎหมายที่จะต้องสนับสนุนไต้หวันให้สามารถป้องกันตนเองได้ แม้จะไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกันก็ตาม
ทรัมป์ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการพ็อดแคสต์ ‘The Joe Rogan Experience’ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ โดยเอ่ยย้ำเรื่องที่ไต้หวัน “ขโมย” อุตสาหกรรมชิปไปจากสหรัฐฯ และเรียกร้องให้ไทเป “จ่ายเงิน” หากต้องการการคุ้มครองจากอเมริกา
ด้าน กัว จื้อฮุย (Kuo Jyh-huei) รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน บอกกับสื่อที่กรุงไทเปวันนี้ (30) ว่า “ไม่ขอให้ความเห็นใดๆ” เนื่องจากการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ยังคงดำเนินอยู่ พร้อมอวยพรให้อเมริกา “ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย”
ทั้งนี้ ไต้หวันเคยได้รับการสนับสนุนที่เข้มแข็งจากรัฐบาล ทรัมป์ ในช่วงปี 2017-2021 ซึ่งการหนุนหลังนี้ก็ยังคงดำเนินเรื่อยมาจนถึงยุคของประธานาธิบดี โจ ไบเดน
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (25) สหรัฐฯ ได้ประกาศโครงการจำหน่ายระบบขีปนาวุธมูลค่าเกือบ 2,000 ล้านดอลลาร์ให้ไต้หวัน ซึ่งแน่นอนว่าสร้างความโกรธเกรี้ยวต่อจีน
โฆษก จู เรียกขานประธานาธิบดี ไล่ ชิงเต๋อ ของไต้หวันว่าเป็น “พวกแบ่งแยกดินแดน” (separatist) พร้อมทั้งระบุว่า “ขอฝากคำเตือนไปถึงรัฐบาล ไล่ ชิงเต๋อ ว่าการซื้ออาวุธไม่อาจซื้อความมั่นคงปลอดภัยได้”
ที่มา : รอยเตอร์