สหรัฐฯ จะไม่กำหนดข้อจำกัดกับเคียฟในการใช้อาวุธของอเมริกา หากว่าเกาหลีเหนือเข้าสู่ศึกสู้รบระหว่างยูเครนกับรัสเซีย จากคำเตือนของเพนตากอนในวันจันทร์ (28 ต.ค.) หลังจากนาโตออกมาเผยว่าหน่วยทหารของเปียงยางเข้าประจำการในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การประจำการทหารของเกาหลีเหนือโหมกระพือความกังวลแก่ตะวันตกว่าความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมากว่า 2 ปีครึ่งในยูเครนอาจลุกลามบานปลาย แม้ขณะเดียวกันเป้าความสนใจได้เบี่ยงไปยังตะวันออกกลาง
มันอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า รัสเซียกำลังหวังชดเชยความสูญเสียที่มากขึ้นเรื่อยๆ ในสนามรบ และเดินหน้ารุกคืบในภาคตะวันออกของยูเครนอย่างช้าๆ แต่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
"ความร่วมมือทางทหารที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือ เป็นภัยคุกคามความมั่นคงของทั้งภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และอียู-แอตแลนติก" มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต บอกกับผู้สื่อข่าวหลังจากพูดคุยกับคณะผู้แทนของเกาหลีใต้ เกี่ยวกับการประจำการทหารของเกาหลีเหนือ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน บอกว่าสถานการณ์นี้เป็นอันตรายอย่างมาก หลังจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ประเมินว่าตอนนี้มีทหารเกาหลีเหนือราว 10,000 นาย ถูกส่งเข้าประจำการในภาคตะวันออกของรัสเซีย สำหรับการฝึกฝน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดหมายเมื่อวันพุธที่แล้ว (23 ต.ค.) ว่ามีอยู่ประมาณ 3,000 นาย
"ส่วนหนึ่งของทหารเหล่านี้ได้เคลื่อนเข้าไปประชิดยูเครนแล้ว และเรามีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ว่ารัสเซียมีความตั้งใจใช้ทหารเหล่านี้ในการสู้รบหรือสนับสนุนปฏิบัติการสู้รบกับกองกำลังยูเครน ในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย ใกล้ชายแดนติดกับยูเครน" ซาบรินา ซิงห์ โฆษกเพนตากอนกล่าว
หน่วยข่าวกรองของกองทัพยูเครน กล่าวอ้างเมื่อวันพฤหัสบดี (24 ต.ค.) ว่าพบเห็นหน่วยทหารเกาหลีเหนือชุดแรกอยู่ในแคว้นคูร์สก์ ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน บริเวณที่ทหารของยูเครนกำลังปฏิบัติการ นับตั้งแต่เปิดฉากรุกรานเข้าสู่ดินแดนของรัสเซียแห่งนี้เมื่อเดือนสิงหาคม
อย่างไรก็ตาม เพนตากอนไม่ได้ยืนยันว่ากองกำลังเกาหลีเหนือยู่ในแคว้นคูร์สก์แล้วหรือไม่ "มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาอาจกำลังเคลื่อนไหวในทิศทางที่มุ่งหน้าสู่คูร์สก์ แต่ฉันยังไม่มีรายละเอียดมากกว่านี้" ซิงห์กล่าว
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวหาว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการโหมกระพือสถานการณ์ให้ลุกลามบานปลายโดยรัสเซีย ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครน เผยว่าเคียฟได้เตือนเกี่ยวกับการประจำการทหารเกาหลีเหนือมานานหลายสัปดาห์แล้ว พร้อมกล่าวหาพันธมิตรล้มเหลวในการตอบโต้หนักหน่วง
"ขีดเส้นใต้เอาไว้ กรุณาฟังยูเครน ทางออกคือ ยกเลิกข้อจำกัดเราเดี๋ยวนี้เลยเกี่ยวกับการใช้อาวุธพิสัยไกลโจมตีรัสเซีย" อันดรี ซีบีฮา รัฐมนตรีต่างประเทศยูคเรนเขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์
เบื้องต้น วังเครมลินปฏิเสธรายงานข่าวเกี่ยวกับการประจำการของทหารเกาหลีเหนือว่าเป็น "ข่าวปลอม" แต่ ปูติน ในวันพฤหัสบดี (24 ต.ค.) ไม่ปฏิเสธมีทหารเปียงยางอยู่ในรัสเซีย และบอกว่ามันเป็นเรื่องของมอสโก ในแนวทางการใช้ประโยชน์จากสนธิสัญญาความเป็นหุ้นส่วนกับเปียงยาง
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือ ไม่ยืนยันรายงานข่าวของสื่อมวลชนเกี่ยวกับการประจำการทหารในรัสเซีย แต่บอกว่าถ้าเปียงยางดำเนินการดังกล่าว เขาเชื่อว่ามันจะเป็นไปตามกรอบบรรทัดฐานในระดับสากล
นับตั้งแต่ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ พบกันที่ภูมิภาคตคะวันออกไกลของรัสเซียเมื่อปีที่แล้ว เกาหลีเหนือและรัสเซียได้ยกระดับความสัมพันธ์ด้านการทหาร พวกเขาพบปะกันอีกครั้งในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ลงนามในข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุม ในนั้นรวมถึงความตกลงกลาโหมร่วม
เลขาธิการนาโตบอกว่า การประจำการทหารเกาหลีเหนือ เป็นสัญญาณว่า ในส่วนของปูตินนั้น กำลังเผชิญกับความสิ้นหวังมากขึ้นเรื่อยๆ "มีทหารรัสเซียกว่า 600,000 นายที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บในสงครามของปูติน และเขาไม่สามารถเดินหน้าการจู่โจมของเขาเล่นงานยูเครน โดยปราศจากแรงสนับสนุนจากต่างชาติ"
อันเดรีย์ เยอร์มัค หัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดียูเครน เรียกร้องว่ามาตรการคว่ำบาตรแต่เพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอในมาตรการตอบโต้การเข้ามาพัวพันของเกาหลีเหนือ เขาบอกว่าเคียฟต้องการอาวุธและแผนที่ชัดเจนในการสกัดการยกระดับการเข้ามามีส่วนร่วมของเปียงยาง
"ศัตรูมีจุดแข็งที่ทราบกันดี และพันธมิตรของเราก็มีจุดแข็งนี้เช่นกัน" เยอร์มัคกล่าว
(ที่มา : รอยเตอร์)