ราคาน้ำมันร่วงลงกว่า 4 ดอลลาร์ในวันจันทร์ (28 ต.ค.) หลังปฏิบัติการโจมตีแก้แค้นอิหร่านของอิสราเอล ไม่ได้เล็งเป้าเล่นงานที่ตั้งทางพลังงานและนิวเคลียร์ ไม่ก่อความปั่นป่วนทางอุปทาน ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก จับตารายงานผลประกอบการบริษัท ขณะที่ทองคำทรงตัว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 4.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 67.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 4.63 ดอลลาร์ ปิดที่ 71.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เมื่อวันเสาร์ (26 ต.ค.) ฝูงบินรบของอิสราเอล เสร็จสิ้นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศก่อนรุ่งสาง 3 เที่ยว เล็งเป้าเล่นงานโรงงานขีปนาวุธและที่ตั้งอื่นๆ ใกล้กรุงเตหะรานและทางตะวันตกของอิหร่าน ในเหตุตอบโต้กันล่าสุดระหว่าง 2 คู่อริในตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ตาม ด้วยที่การโจมตีเล็งเป้าไปที่เป้าหมายทางทหาร มันช่วยคลายความกังวลทางอุปทาน หลังจากก่อนหน้านี้มีความวิตกว่า อิสราเอลล็อกเป้าเล่นงานที่ตั้งทางนิวเคลียร์หรือโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของอิหร่าน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันจันทร์ (28 ต.ค.) จับตาบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่เผยแพร่รายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ในขณะที่เหลือเวลาอีกไม่กี่วันจะถึงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 273.17 จุด (0.65 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 42,387.57 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 15.40 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,823.52 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 48.58 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,567.19 จุด
วอลล์สตรีทจับตาไปที่ผลประกอบการของบรรดาบริษัทจัดทะเบียน โดยตลอดสัปดาห์นี้ มีบริษัทในเอสแอนด์พี 500 ราว 169 แห่ง ที่มีกำหนดเผยแพร่รายงานอออกมา
ในนั้นรวมถึงหลายบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่เรียกว่า Magnificent Seven ที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้วอลล์สตรีททุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยอัลฟาเบ็ท บริษัทแม่ของกูเกิล เมตา แพลตฟอร์มส์ และ แอปเปิลต่างปิดบวก ก่อนหน้าเผยแพร่รายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้
ส่วนราคาทองคำทรงตัวในวันจันทร์ (28 ต.ค.) จากการปรับขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และการแข็งค่าของดอลลาร์ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,755.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)