อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากรีพับลิกัน ลงสู้ศึกชิงเก้าอี้ทำเนียบขาว รับปากว่าจะไม่ส่งทหารอเมริกาไปสู้รบหรือไปตายในประเทศต่างๆ ที่บางชาติไม่เคยแม้แต่ได้ยินชื่อ คำประกาศกร้าวที่เกิดขึ้นระหว่างปราศรัยหาเสียงกับบรรดาผู้สนับสนุนในรัฐสมรภูมิอย่างเพนซิลเวเนีย เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ระหว่างปราศรัยหาเสียงเมื่อวันเสาร์ (26 ต.ค.) เป็นอีกครั้งที่ ทรัมป์ กล่าวอ้างว่าเขาเป็นคนเดียวที่มีความสามารถในการป้องกันความขัดแย้งทั่วโลก และอ้างว่า กมลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต "จะนำพาเราเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 เรื่องนี้การันตีได้ เพราะว่าเธอไร้ความสามารถโดยสิ้นเชิงที่จะทำหน้าที่นี้"
"การให้เธอเป็นประธานาธิบดี จะเป็นการเดิมพันกับชีวิตผู้คนหลายล้านคน พวกเขาลูกชายและลูกสาวจะไปลงเอยด้วยการถูกเกณฑ์เข้าสู่สงครามในประเทศหนึ่งๆ ที่คุณไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำ" เขากล่าว
ครั้งที่กล่าวสุนทรพจน์ตอบรับการถูกเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ทรัมป์ ประกาศว่า "จะยุติทุกๆ วิกฤตนานาชาติ ที่รัฐบาลปัจจุบันเป็นคนก่อขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยูเครนและกาซา"
อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยนำเสนอแผนอย่างเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับการนำมาซึ่งโลกแห่งสันติภาพ แต่เน้นคำเตือนซ้ำๆ ว่าการมอบเงินสนับสนุนและการสนับสนุน "สงครามของคนอื่น ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส สหรัฐฯ มีความเป็นไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะถลำเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 3" ทรัมป์กล่าว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์กล่าวอ้างบนแพลตฟอร์มทรัตช์ โซเชียล ของเขา ว่า "ถ้า กมลา อยู่ในทำเนียบขาวต่อไปอีก 4 ปี ตะวันออกกลางจะอยู่ในเปลวเพลิงต่อไปอีก 4 ทศวรรษ และลูกๆ ของพวกคุณจะต้องออกไปทำสงคราม แต่ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ส่งพวกคุณไปสู้รบและไปตายแบบโง่ๆ ในสงครามต่างชาติที่ไม่มีวันสิ้นสุด" ทรัมป์บอกกับฝูงชน
ทรัมป์ สัญญาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะยุติความขัดแย้งยูเครนภายใน 24 ชั่วโมง หากได้รับเลือกตั้ง แม้กระทั่งก่อนสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ด้วยการบีบให้ทั้ง 2 ฝ่ายหันหน้าเข้าสู่การเจรจา
แฮร์ริส ผู้สนับสนุนยูเครนตัวยง วิพากษ์วิจารณ์แนวทางของทรัมป์ อ้างว่าเขาอาจจำเป็นต้องบีบบังคับให้เคียฟยอมจำนน ขณะที่เครมลินเองก็แสดงความสงสัยต่อคำสัญญาสันติภาพของทรัมป์ โดยทางโฆษก ดมิทรี เปสคอฟ บ่งชี้ว่า ทรัมป์ ไม่ได้มีไม้กายสิทธิ์ที่สามารถหยุดการสู้รบชั่วข้ามคืน
ทรัมป์ ยังอ้างด้วยว่าถ้าเขาเป็นประธานาธิบดี เขาจะสามารถป้องกันเหตุการณ์พวกฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว พร้อมคุยโวว่า ครั้งที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาเคยรับประกันความมั่นใจว่า เตหะรานไม่ได้ส่งมอบเงินทุนสนับสนุนบรรดากลุ่มตัวแทนต่างๆ ของพวกเขา
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)