เอพี - พายุโซนร้อนจ่ามี (Tropical Storm Trami) คร่าชีวิตประชาชนฟิลิปปินส์วันเสาร์ (26 ต.ค.) ไป 126 คน และสูญหายอีก 41 คนหลังเกิดน้ำท่วมฉับพลันและเกิดดินถล่ม มีหลายพื้นที่ยังคงถูกตัดขาดและต้องการความช่วยเหลือ
เอพีรายงานวานนี้ (26 ต.ค.) ว่า พายุจ่ามีพัดออกจากภาคตะวันตกเฉียงเหนือของฟิลิปปินส์ในวันศุกร์ (25) ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตไปไม่ต่ำกว่า 85 คน และมีผู้สูญหายอีก 41 คนจากฝีมือของพายุโซนร้อนจ่ามีที่ถือเป็นหนึ่งในพายุที่ร้ายกาจมากที่สุดในปีนี้ สำนักงานรับมือภัยพิบัติฟิลิปปินส์กล่าวผ่านแถลงการณ์
อย่างไรก็ตาม ในวันเสาร์ (26) ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ระหว่างการเยือนพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุจ่ามียืนยันว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มมาอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 126 คน
และเปิดเผยว่า พายุจ่ามีทำให้ปริมาณน้ำฝนสูงกว่าปกติตกลงมาในฟิลิปปินส์ รวมถึงในบางพื้นที่อาจสูงเท่ากับปริมาณน้ำฝน 2 เดือนแต่เกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ทำให้เกิดปัญหาการควบคุมน้ำท่วมในหลายจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากฤทธิ์พายุลูกนี้
“มีน้ำมากเกินไป” มาร์กอสแถลงต่อนักข่าว และเสริมต่อว่า “พวกเรายังไม่ได้เสร็จสิ้นการทำงานกู้ภัยของพวกเรา”
ผู้นำฟิลิปปินส์กล่าวว่า “ปัญหาพวกเราที่นี่ยังคงมีอีกหลายพื้นที่ยังจมอยู่ใต้น้ำและถูกตัดขาดที่แม้แต่รถบรรทุกขนาดใหญ่ยังเข้าไปไม่ได้
มาร์กอสกล่าวว่า รัฐบาลมะนิลาของเขาวางแผนจะเริ่มต้นโครงการควบคุมน้ำท่วมใหญ่ที่เป็นภัยคุกคามสามารถเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันมาจากสาเหตุการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศโลก
เอพีรายงานว่า มีประชาชนฟิลิปปินส์กว่า 5 ล้านคนอาศัยอยู่ในเส้นทางผ่านของพายุ รวมเกือบครึ่งล้านคนที่ส่วนหนึ่งไปหลบภัยในศูนย์ฉุกเฉินจำนวนกว่า 6,300 แห่งในไม่กี่จังหวัด
ทั้งนี้ ในวงการประชุม ครม.ฟิลิปปินส์ฉุกเฉิน ประธานาธิบดีมาร์กอสได้แสดงความวิตกต่อรายงานโดยผู้เชี่ยวชาญทางสภาพอากาศฟิลิปปินส์ที่ว่า พายุโซนร้อนจ่ามีซึ่งเป็นลูกที่ 11 ของปีอาจย้อนกลับเข้าฟิลิปปินส์อีกครั้งในสัปดาห์หน้าจากการที่พายุถูกลมกดอากาศสูงในทะเลจีนใต้ผลักดัน
ตำรวจฟิลิปปินส์หลายสิบ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและทีมหน่วยฉุกเฉินอื่นๆ พร้อมกับการสนับสนุนจากรถแบ็กโฮ 3 คัน และทีมสุนัขดมกลิ่นได้ขุดหาชาวบ้าน 1 ใน 2 คนสุดท้ายที่สูญหายในเมืองติดทะเลสาบ เมืองตาลิเซย์ (Talisay) ใน จ.บาตังกัส (Batangas) เมื่อวานนี้ (26)
รัฐบาลมะนิลาสั่งปิดโรงเรียนและสำนักงานรัฐในวันศุกร์ (25) เป็นวันที่ 3 เพื่อทำให้ประชาชนฟิลิปปินส์จำนวนหลายล้านคนปลอดภัยบนเกาะลูซอนซึ่งเป็นเกาะหลักทางเหนือของประเทศ ขณะที่เรือข้ามฟากระหว่างเกาะถูกสั่งงดชั่วคราวทำให้จำนวนหลายพันคนต้องติดค้าง
ทั้งนี้ สภาพอากาศปลอดโปร่งในหลายพื้นที่ในวันเสาร์ (26) เปิดทางให้การทำความสะอาดในพื้นที่ส่วนใหญ่