นาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ออกมาแถลง “ขออภัย” และยอมรับผิดที่ตนเองบริหารจัดการกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB) ผิดพลาดจนเป็นคดีความอื้อฉาว แต่ยังยืนกราน “ไม่รู้” ว่ามีการยักยอกเงินออกจากกองทุนอย่างผิดกฎหมาย
1MDB ซึ่งเป็นกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวที่ นาจิบ ร่วมก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2009 ในขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กำลังตกเป็นเป้าสอบสวนคดีทุจริตฉ้อโกงโดยหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอย่างน้อย 6 ประเทศ หลังพบว่าเงินทุนกว่า 4,500 ล้านดอลลาร์ถูกยักย้ายถ่ายโอนไปเข้ากระเป๋าของพวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงและบุคคลใกล้ชิดอดีตนายกฯ
ศาลสูงสุดมาเลเซียได้มีคำพิพากษายืนเมื่อปี 2022 ให้ นาจิบ มีความผิดฐานคอร์รัปชันและฟอกเงินจากการรับเงินประมาณ 10 ล้านดอลลาร์จาก 1MDB ผ่านทางบริษัท SRC International และให้ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 12 ปี ซึ่งต่อมาคณะกรรมการอภัยโทษที่มีอดีตสมเด็จพระราชาธิบดีมาเลเซียทรงเป็นประธานได้มีคำสั่งลดโทษจำคุกเหลือเพียง “ครึ่งหนึ่ง”
นาจิบ ในวัย 71 ปี ยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเองเรื่อยมา และเมื่อวานนี้ (24) ก็ได้ออกจดหมายขออภัยและแสดงความสำนึกผิดเกี่ยวกับกรณีอื้อฉาวที่เกิดขึ้นกับ 1MDB
“ผมรู้สึกเจ็บปวดในทุกๆ วันที่ได้ทราบว่า ความล้มเหลวของ 1MDB เกิดขึ้นภายใต้การดูแลของผม ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงการคลังและนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น” เนื้อความในจดหมายซึ่งถูกนำมาอ่านต่อหน้าสื่อมวลชนโดย โมฮัมหมัด นาซีร์ โมฮัมหมัด นาจิบ บุตรชายของอดีตนายกฯ ระบุ
“และด้วยเหตุนี้ ผมจึงอยากที่จะขออภัยอย่างสุดซึ้งต่อประชาชนชาวมาเลเซียทุกคน”
พนักงานสอบสวนมาเลเซียเคยออกมาเปิดเผยว่า กระบวนการสอบสวน 1MDB ที่เริ่มขึ้นในสมัยที่ นาจิบ ยังคงเป็นนายกฯ อยู่ถูก “ขัดขวาง” และมีพยานหลายคนถูกอุ้มหาย หรือไม่ก็ถูกขู่เอาชีวิต
ถ้อยแถลงล่าสุดของ นาจิบ มีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่รัฐบาลมาเลเซียออกมาประกาศในร่างงบประมาณปี 2025 ว่าจะมีการเสนอกฎหมายใหม่ที่อนุญาตให้ผู้กระทำผิดในบางกรณีรับโทษ “กักบริเวณในบ้านพัก” (house arrest) แทนการอยู่เรือนจำ
นาจิบ พยายามเรียกร้องขอชดใช้ความผิดที่เหลือด้วยการกักบริเวณภายในบ้าน และยังเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบว่าเคยมี “พระบรมราชโองการ” จากอดีตสมเด็จพระราชาธิบดีที่เสนอให้ตนเองสามารถรับโทษกักบริเวณในบ้านพักแทนได้
อดีตนายกฯ ผู้นี้บอกว่าตัวเอง “ยังคงช็อกมาก” และเสียใจอย่างยิ่งกับการทุจริตที่เกิดขึ้นใน 1MDB แต่ก็ยืนยันว่าตนเองเป็น “ผู้บริสุทธิ์” พร้อมอ้างถึงรายงานข่าวฉบับหนึ่งที่บอกว่า นักธุรกิจ “โจ โลว์” กับผู้บริหารบริษัทน้ำมัน Pretrosaudi อีก 2 รายสมคบคิดกันสูบเงินออกจาก SRC โดยที่ นาจิบ ไม่รู้เรื่องระหว่างช่วงปี 2009-2010
ปัจจุบัน โลว์ ถูกดำเนินคดีทั้งในสหรัฐฯ และมาเลเซียฐานเป็นผู้ต้องหาหลักในคดีฉ้อโกง 1MDB ขณะที่ผู้บริหาร Petrosaudi อีกสองคนก็ถูกศาลสวิตเซอร์แลนด์พิพากษาว่ามีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ 1MDB เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ทว่าทั้ง 3 คนยังคงยืนกรานปฏิเสธทุกข้อหา
ที่มา : รอยเตอร์