เอพี/เอเจนซีส์ - ลี เซียน หยาง (Lee Hsien Yang) น้องชายของอดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลี เซียนลุง เปิดเผยวันอังคาร (23 ต.ค.) ว่า เขาได้รับอนุญาตจากรัฐบาลอังกฤษให้สามารถลี้ภัยทางการเมืองที่นั่นได้เพื่อหนีการดำเนินคดีในสิงคโปร์อย่างปราศจากความชอบธรรม
เอพีรายงานวันนี้ (23 ต.ค.) ว่า ลี เซียนหยาง (Lee Hsien Yang) เป็นบุตรชายคนสุดท้องของบิดาสมัยใหม่ของสิงคโปร์ ลี กวนยู และยังเป็นน้องชายของอดีตนายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ที่เป็นผู้สามารถทำให้สิงคโปร์กลายเป็นเวทีซัมมิตครั้งแรกระหว่างอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ท่ามกลางสายตาการจับจ้องจากทั้งโลก
สเตรทไทม์สของสิงคโปร์รายงานว่า น้องชายอดีตผู้นำตามการรายงานของเดอะการ์เดียนเปิดเผยว่า ตัวเขาได้รับให้ลี้ภัยทางการเมืองจากรัฐบาลอังกฤษเมื่อสิงหาคมปี 2024 หลังจากหลบหนีออกนอกประเทศโดยอ้างว่า รัฐบาลสิงคโปร์ดำเนินคดีเขาโดยมีแรงจูงใจทางการเมือง และได้ยื่นขอการลี้ภัยในปี 2022
ลีอ้างว่า รัฐบาลสิงคโปร์จ้องเล่นงานเขาหลังเขาหันไปให้การสนับสนุนพรรคฝ่ายค้าน และถึงแม้จะมีความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ “แต่ยังมีด้านมืดของมัน ซึ่งนั่นคือเป็นรัฐบาลกดขี่”
เอพีรายงานว่า ลี เซียน หยาง กล่าวหาว่านอกจากตัวเขาแล้ว รัฐบาลสิงคโปร์ยังจ้องดำเนินคดีภรรยา และลูกชายของเขา
โดยบนเฟซบุ๊กที่โพสต์วันอังคาร (22) ลีกล่าวว่า เขาพยายามที่จะขอลี้ภัยทางการเมืองในปี 2022 ที่เป็นเสมือนทางเลือกสุดท้าย
“การโจมตีจากรัฐบาลสิงคโปร์ต่อตัวผมนั้นเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณะ พวกเขาดำเนินคดีลูกชายผม ทำกระบวนการทางวินัยต่อภรรยาของผม และให้ตำรวจเปิดการสอบสวนเก๊ที่ลากยาวมาเป็นเวลาหลายปี” น้องชายอดีตนายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง กล่าว
และเสริมว่า “ตั้งอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงเหล่านี้ อังกฤษได้ประเมินว่าผมเผชิญหน้าต่อความเสี่ยงอย่างลึกซึ้งของการถูกดำเนินคดีและไม่สามารถที่จะเดินทางกลับไปยังสิงคโปร์ได้อย่างปลอดภัย”
เขากล่าวต่อว่า “ผมยังคงเป็นพลเมืองสิงคโปร์และตั้งความหวังว่าในวันหนึ่งข้างหน้าจะมีความปลอดภัยในการเดินทางกลับบ้านได้”
เดอะการ์เดียนของอังกฤษได้ตีพิมพ์การให้สัมภาษณ์ของลี เซียน หยาง วันอังคาร (22) ซึ่งเขาที่เป็นน้องชายที่บาดหมางของอดีตผู้นำยังคงวิจารณ์และโจมตีรัฐบาลแดนลอดช่องโดยกล่าวหาว่า รัฐบาลสิงคโปร์เอื้อการฟอกเงิน
โดยในการให้สัมภาษณ์ได้ระบุว่า “มีความจำเป็นที่ทั้งโลกต้องมองอย่างใกล้ชิดต่อบทบาทของสิงคโปร์ในฐานะผู้ให้ความช่วยเหลือใหญ่ในการค้าอาวุธ เงินสกปรก เงินค้ายาเสพติด และเงินดิจิทัลคริปโต”
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสิงคโปร์ออกแถลงการณ์ว่า ข้อกล่าวหาต่างๆ ที่ปรากฏตามรายงานของเดอะการ์เดียนล้วนไม่เป็นจริง
“รัฐบาลสิงคโปร์มีระบบที่แข็งแกร่งเพื่อป้องกันและต่อต้านการฟอกเงิน และการเคลื่อนไหวทางวาณิชธนกิจที่มิชอบและสอดคล้องเป็นไปตามมาตรฐานระหว่างประเทศ” รายงานจากแถลงการณ์
และเสริมต่อว่า “ในสิงคโปร์ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ใครก็ตามรวมไปถึงลูกหลานของนายกรัฐมนตรีผู้ก่อตั้ง ลี กวนยู สามารถถูกสอบสวนและนำตัวสู่ศาลได้ทั้งนั้น”
ทั้งลี เซียน หยาง และพี่สาวของเขา ลี เว่ยหลิง (Lee Wei Ling) ที่เพิ่งเสียชีวิตเมื่อต้นเดือนนี้ ได้ร่วมกันกล่าวหาพี่ชายคนโต ลี เซียนลุง ว่าใช้อำนาจของตัวเองอย่างมิชอบเพื่อหยุดการรื้อคฤหาสน์ตระกูลลีตามพินัยกรรมของบิดา ลี กวนยู ที่ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปี 2015 หลังปกครองสิงคโปร์จนรุ่งเรืองมายาวนานกว่า 30 ปี
การโต้แย้งภายในตระกูลลี ส่งผลทำให้สาธารณชนเห็นลี เซียน หยาง และภรรยาถูกสอบสวนเป็นทางการต่อการให้หลักฐานเท็จในกระบวนการทางยุติธรรมเนื่องมาจากพินัยกรรมของบิดา ลี กวน ยู
ทั้งนี้ ลี เซียนลุง ก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อพฤษภาคมหลังดำรงตำแหน่งนานร่วม 20 ปี และเขาได้ส่งผ่านอำนาจต่อให้ นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์คนปัจจุบัน ลอว์เรนซ์ หว่อง (Lawrence Wong) แต่ลียังคงมีตำแหน่งในคณะ ครม.สิงคโปร์ในฐานะ "รัฐมนตรีอาวุโส"
ทั้งนี้ น้องชาย ลี เซียน หยาง เข้าร่วมพรรคฝ่ายค้านสิงคโปร์ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2020 โดยในเวลานั้นชี้ว่า พรรครัฐบาลที่นำโดยพี่ชายของเขานำสิงคโปร์ไปผิดทาง