องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยจำนวนประชากรยูเครนลดลงประมาณ 10 ล้านคน หรือราว 1 ใน 4 นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มทำสงครามรุกรานเต็มขั้นในเดือน ก.พ. ปี 2022 ซึ่งส่งผลให้ชาวยูเครนนับล้านๆ คนต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัยสงคราม อัตราการเจริญพันธุ์ล้มเหลว และบาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก
ฟลอเรนซ์ เบาเออร์ (Florence Bauer) หัวหน้าฝ่ายกิจการยุโรปตะวันออกประจำกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) ระบุในงานแถลงข่าวที่นครเจนีวาวานนี้ (22 ต.ค.) ว่า การรุกรานที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือน ก.พ. ปี 2022 ส่งผลให้สถานการณ์ทางประชากรศาสตร์ที่ไม่ค่อยจะดีอยู่แล้วยิ่งเลวร้ายลงไปมาก
“อัตราการเกิดลดลงอย่างมาก และปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1 ต่อผู้หญิง 1 คน ซึ่งถือว่าต่ำเป็นอันดับต้นๆ ของโลก” เธอกล่าว
ทั้งนี้ อัตราการเจริญพันธุ์ที่จะทำให้จำนวนประชากรอยู่ในขั้นเสถียรนั้นอยู่ที่เด็กเกิดใหม่ 2.1 ต่อผู้หญิง 1 คน
ยูเครนเคยมีประชากรมากกว่า 50 ล้านคนตอนที่สหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 1991 แต่ก็เช่นเดียวกับเพื่อนบ้านในยุโรปตะวันออกและเอเชียกลางอื่นๆ ที่ประสบปัญหาประชากรลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2021 หรือ 1 ปีก่อนจะเกิดสงครามกับรัสเซีย ยูเครนมีประชากรอยู่ที่ประมาณ 40 ล้านคน
เบาเออร์ ระบุว่า การคำนวณผลกระทบที่แท้จริงจากสงครามนั้นต้องรอจนกว่าการสู้รบจะสิ้นสุดลง และมีการทำสำมะโนประชากรอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง ทว่าผลกระทบเฉพาะหน้าที่มองเห็นได้ก็คือ ในบางภูมิภาคที่ประชากรหดหายไป หมู่บ้านหลายแห่งเหลือแต่เพียงผู้สูงอายุ และคนหนุ่มสาวที่ไม่สามารถสร้างครอบครัวได้
ในส่วนของรัสเซียซึ่งเคยมีประชากรมากกว่า 140 ล้านคนในช่วงก่อนสงครามก็เริ่มเห็นปัญหาการลดลงของประชากรเช่นกัน โดยอัตราการเกิดในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ปี 1999 ซึ่งเป็นระดับที่ทำเนียบเครมลินออกมายอมรับว่าเข้าขั้น “หายนะ”
ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่ทำให้ประชากรในยูเครนลดลงนั้นมาจากการที่มีชาวยูเครนลี้ภัยในต่างประเทศประมาณ 6.7 ล้านคน โดยเฉพาะในยุโรป ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากสงครามก็เป็นปัจจัยรองลงมา
“มันยากที่จะระบุตัวเลขที่แน่นอน แต่จากการประเมินคร่าวๆ น่าจะมีผู้เสียชีวิตอยู่ที่หลายหมื่นคน” เบาเออร์ กล่าว
ที่มา : รอยเตอร์