xs
xsm
sm
md
lg

สะดุ้งทั้งบาง! มีผู้เสียชีวิต 1 ราย-ล้มป่วยนับสิบในสหรัฐฯ หลังกินแฮมเบอร์เกอร์ของแมคโดนัลด์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และหลายสิบคนล้มป่วย หลังการระบาดรุนแรงของเชื้ออีโคไล ที่เชื่อมโยงกับแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวเดอร์ ของแมคโดนัลด์ จากการเปิดเผยของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (ซีดีซี) ในวันอังคาร (22 ต.ค.)

หน่วยงานสาธารณสุขแห่งนี้เปิดเผยว่าการแพร่ระบาดที่เริ่มมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน ได้แพร่กระจายไปทั่วรัฐต่างๆ 10 รัฐทางตะวันตกของสหรัฐฯ โดยเคสส่วนใหญ่จากทั้งหมด 49 เคส พบในรัฐโคโลราโดและเนบราสกา

หุ้นของเครือข่ายฟาสต์ฟูดระดับโลกแห่งนี้ ร่วงลงมากกว่า 8% หลายชั่วโมงหลังเปิดตลาด ตามหลังถ้อยแถลงดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ ระบุว่ามี 10 คนถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ในนั้นรวมถึงเด็กรายหนึ่งที่มีอาการฮีโมไลติกยูรีมิก (hemolytic uremic syndrome) เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นเมื่อหลอดเลือดขนาดเล็กในไตได้รับความเสียหาย หรือเกิดการอักเสบจนอาจเป็นเหตุให้เกิดลิ่มเลือดภายในเส้นเลือด

"มีคนสูงวัยรายหนึ่งในโคโลราโดเสียชีวิต" ถ้อยแถลงของซีดีซีระบุ พร้อมเผยว่าบุคคลที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดล้วนมีเชื้ออีโคไลสายพันธุ์เดียวกัน และรายงานว่ารับประทานแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวเดอร์ ก่อนมีอาการป่วย

แม้ทีมสืบสวนยังไม่ปักหมุดว่าวัตถุดิบชนิดใดที่เป็นต้นตอของการแพร่ระบาดที่แท้จริง แต่พวกเขาเพ่งเล็งไปที่หัวหอมหั่นและเนื้อบด ซึ่งวัตถุดิบทั้ง 2 ถูกถอดออกจากร้านแมคโดนัลด์สาขาต่างๆ ในรัฐที่ได้รับผลกระทบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ระหว่างที่มีการสืบสวนเพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน ทางซีดีซีเผยว่าแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวเดอร์ อาจไม่มีขายในบางรัฐเป็นการชั่วคราว

หน่วยงานสาธารณสุขแห่งนี้ออกคำแนะนำว่าบุคคลใดที่รับประกันแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวเดอร์ และมีอาการต่างๆ ของพิษเชื้ออีโคไล เช่น ท้องเสียง มีไข้สูงกว่า 38.9 องศาเซลเซียส และอาเจียน ให้รีบไปพบแพทย์ในทันที

ปกติแล้วอาการต่างๆ เหล่านี้จะเริ่มขึ้น 3 ถึง 4 วันหลังจากติดเชื้อ และคนส่วนใหญ่จะฟื้นไข้ได้เองภายใน 5 ถึง 7 วัน โดยไม่ต้องรับการรักษาใดๆ อย่างไรก็ตาม มีบางเคสที่อาจมีอาการรุนแรงและจำเป็นต้องเข้ารับรักษาตัวในโรงพยาบาล

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าเบื้องต้นทางแมคโดนัลด์ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้

(ที่มา : เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น