xs
xsm
sm
md
lg

ส่งออกแชร์ลูกโซ่! สาวไทยสารภาพผิดในสิงคโปร์ ฉ้อโกงสินค้าแบรนด์เนมมูลค่า 800 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หญิงไทยรายหนึ่งที่เกี่ยวข้องในคดีฉ้อโกงสินค้าแบรนด์เนมมูลค่า 32 ล้านสิงคโปร์ (ราว 800 ล้านบาท) ยอมสารภาพผิดในข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน เมื่อวันจันทร์ (21ต.ค.)

น.ส.ศิริวิภา หรือแอน พันสุข อายุ 30 ปี เผชิญข้อกล่าวหา 180 ข้อหา เกี่ยวข้องกับเหยื่อ 166 ราย ที่ถูกโกงมากกว่า 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เธอยอมรับสารภาพความผิด 30 ข้อหา ในนั้นรวมถึงฉ้อโกง ฟอกเงินและยักยอกสินค้าหรู ส่วนอีก 150 ข้อกล่าวหาที่เหลือจะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาระหว่างกำหนดระวางโทษในวันที่ 29 ตุลาคม

ส่วน นายพี เจียเผิง สามีชาวสิงคโปร์ของเธอ วัย 29 ปี เผชิญข้อกล่าวหา 9 กระทง อย่างไรก็ตาม คดีของเขายังอยู่ระหว่างการพิจารณา

พวกลูกค้าของทั้ง 2 คน คิดว่าพวกเขาจ่ายเงินซื้อนาฬิกาหรู และกระเป๋าหรูจากบริษัทเทรดเนชัน (Tradenation Pte Ltd) และเทรดลักชูรี (Tradeluxury Pte Ltd.) ที่บริหารงานโดย แอน และพี

อย่างไรก็ตาม แอน กลับใช้เงินเหล่านั้นไปซื้อบ้านมูลค่า 2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 50 ล้านบาท) ในกรุงเทพฯ และรถสปอร์ตหรูคันหนึ่งที่ป้ายทะเบียนเป็นชื่อของพี เช่นเดียวกับเครื่องบินเจ็ตภายใต้ชื่อของพีกับเพื่อนๆ ในขณะที่ พี เป็นเจ้าของรถอื่นๆ อีก 3 คัน ในนั้นคือโตโยต้า อัลพาร์ด แม็คลาเรน คูเป และ ปอร์เช่ มาคันน์

แรกเริ่มเลยคือ แอน นำเข้าสินค้าหรูมาจากไทย และจำหน่ายสินค้าหรูเหล่านั้นในราคาต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ขายต่อหรือตัวแทนจำหน่ายเจ้าอื่นๆ แต่ยังคงพอมีกำไรบ้าง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปี 2021 จนถึงต้นปี 2022 เธอมีปัญหาในการจัดหาสินค้าหรูจากต่างแดน และแม้จะตามหาสินค้าหรูจนพบจากซัปพลายเออร์ท้องถิ่น แต่เธอจำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าเหล่นั้น

เมื่อเป็นดังนั้นทั้ง 2 บริษัทจึงเริ่มขาดทุน และอยู่ในสถานะเลวร้ายทางการเงิน จากการเปิดเผยของ เดวิด โก๊ะห์ รองอัยการสิงคโปร์ พร้อมบอกต่อว่าระหว่างเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน 2022 แอน ได้บริหารงานธุรกิจต่างๆของบริษัทเทรดเนชัน ด้วยวัตถุประสงค์หลอกลวง

เธอรับออร์เดอร์และเรียกเก็บเงินล่วงหน้าจากลูกค้า สำหรับนาฬิกาหรูมูลค่ากว่า 24.7 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 627 ล้านบาท) แม้รู้ว่าทางบริษัทเทรดเนชัน ไม่อาจทำตามคำสั่งซื้อดังกล่าว สืบเนื่องจากสถานการณ์ทางการเงิน

จนถึงช่วงปลายเดือนมีนาคม 2022 ทั้ง 2 บริษัทมีหนี้สินสะสมจากการที่ไม่สามารถทำตามคำสั่งซื้อได้กว่า 9.3 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 236 ล้านบาท) ขณะที่ทรัพย์สินของพวกเขามีอยู่เพียง 350,000 ดอลลาร์ (8.8 ล้านบาท)

แม้ต้องเผชิญกับสถานกาณ์เช่นนี้ แต่แอน ยังคงเดินหน้ารับออเดอร์สำหรับสินค้าหรูต่อไป

อัยการสิงคโปร์ ระบุว่า บริษัททั้ง 2 แห่งของทั้งคู่ ได้กลายเป็นกลโกงแบบแชร์ลูกโซ่ และต้องพึ่งพิงลูกค้าใหม่ๆ ในการนำไปจ่ายหนี้พวกลูกค้าเก่า แต่หลังจากพวกลูกค้าตระหนักว่าคงไม่มีวันได้รับสินค้าที่เสียเงินไปแล้ว พวกเขาจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ โดยมีผู้เสียหายทั้งสิ้น 187 คนที่เข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่

ทางอัยการร้องขอให้ศาลลงโทษจำคุกแอน ระหว่าง 14 ปี ถึง 15 ปี ส่วนทางทนายความจำเลย ร้องขอความปรานีจากศาล ขอให้ลงโทษจำคุก 12 ปี 8 เดือน ถึง 13 ปี 7 เดือน

ทั้งพี และ แอน ถูกควบคุมตัวมานานกว่า 2 ปีแล้ว นับตั้งแต่ที่ทั้งคู่โดนจับกุมเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2022 หลังจากหลบหนีนานกว่า 1 เดือน ทั้งคู่หลบหนีไปยังมาเลเซีย ภายใต้ความช่วยเหลือของชายชาวมาเลเซีย 2 คน ในขณะที่ยังอยู่ระหว่างการสืบสวน

ชาวมาเลเซียทั้ง 2 คน ถูกลงโทษจำคุก 1 ปี ในปี 2022 โทษฐานช่วยผู้ต้องหาทั้ง 2 คนหลบหนี

(ที่มา : เอเชียวัน)


กำลังโหลดความคิดเห็น