ราคาน้ำมันขยับขึ้นเกือบ 2% ในวันจันทร์ (21 ต.ค.) ฟื้นตัวจากที่ดิ่งลงกว่า 7% ในสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสาน นักลงทุนเฝ้ารอรายงานผลประกอบการบริษัท ขณะที่ทองคำปรับขึ้นทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 1.34 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เดนิส คริสส์เลอร์ รองประธานอาวุโสด้านการซื้อขายหลักทรัพย์ แห่งสถาบันบีโอเค ไฟแนนเชียล ระบุว่า "น้ำมันดิบดีดตัวขึ้นในตอนเช้าวันนี้ สืบเนื่องจากการสู้รบที่ยังคงลุกลามในตะวันออกกลาง ซึ่งรวมไปถึงความเป็นไปได้ที่อิสราเอลกำลังเตรียมการโจมตีแก้แค้นอิหร่าน"
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานในวันจันทร์ (21 ต.ค.) โดยดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ขยับลง นักลงทุนกังวลมูลค่าหุ้นอาจสูงเกินจริง ในระหว่างที่เฝ้ารอรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่
ดาวโจนส์ ลดลง 344.31 จุด (0.80 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 42,931.60 เอสแอนด์พี ลดลง 10.69 จุด (0.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,853.98 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 50.46 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,540.01 จุด
"มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติใดๆ ที่ตลาดต้องการหยุดพักหายใจ หลังขยับขึ้นต่อเนื่องทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 6 สัปดาห์ติด" คาโรล เชลีฟ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบีเอ็มโอ แฟมิลี กล่าว
ตลาดทองคำยังคงเดินหน้าปิดบวกในวันจันทร์ (21 ต.ค.) หลังทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์มาต่อเนื่อง แม้ต้องเผชิญแรงกดดันจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดีดตัวและการแข็งค่าของดอลลาร์ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 8.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,738.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)