ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในวันอาทิตย์ (20 ต.ค.) เผยว่าตนเองกำลังเสาะหาปฏิกิริยาตอบสนองหนักหน่วงจากประเทศต่างๆ ที่ได้ทราบแล้วว่า เกาหลีเหนือกำลังเข้ามาพัวพันมากขึ้นเรื่อยๆ กับสงครามของรัสเซียในยูเครน ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 ปีครึ่ง
ระหว่างการปราศรัยช่วงค่ำ เซเลนสกีบอกว่ามีหลักฐานทางดาวเทียมและวิดีโออย่างท่วมท้น ว่าเกาหลีเหนือไม่ใช่แค่ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่รสเซียเท่านั้น แต่กำลังพลของพวกเขายังเตรียมพร้อมสำหรับประจำการอีกด้วย
"ผมขอบคุณพวกผู้นำและตัวแทนของประเทศต่างๆ ที่ไม่เลือกปิดตาตัวเอง และพูดตรงๆ เกี่ยวกับความร่วมมือนี้ เพื่อประโยชน์ของสงครามในวงกว้าง" เขากล่าว "เราคาดหมายปฏิกิริยาตอบสนองปกติ จริงใจและหนักหน่วง จากพันธมิตรทั้งหลายของเราในเรื่องนี้"
เซเลนสกีระบุว่า การเข้ามาพัวพันมากขึ้นเรื่อยๆ ของเกาหลีเหนือ รังแต่จะเป็นอันตรายแก่ทุกฝ่าย "เคราะห์ร้าย ภาวะไร้เสถียรภาพและภัยคุกคามอาจเพิ่มขึ้นทวีคูณ หลังจากเกาหลีเหนือเริ่มฝีกฝนสำหรับทำการศึกสงครามสมัยใหม่" เขากล่าว
"ถ้าตอนนี้โลกยังคงนิ่งเงียบ และเราจำเป็นต้องสู้รบกับกำลังพลจากเกาหลีเหนือในแนวหน้า ในแบบเดียวกับที่เราจำเป็นต้องปกป้องตนเองจากโดรนซาเฮด (อิหร่าน) แน่นอนว่ามันจะไม่เป็นประโยชน์กับใครเลยบนโลกใบนี้ และรังแต่จะทำให้สงครามยืดเยื้อ"
เขากล่าวต่อว่า การกระทำของเกาหลีเหนือ หมายความว่า "โดยเนื้อแท้แล้วกำลังมีประเทศอื่นกำลังเข้าสู่การทำสงครามกับยูเครน"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เซเลนสกี กล่าวหา เกาหลีเหนือประจำการพวกเจ้าหน้าที่เคียงข้างรัสเซีย และกำลังเตรียมการส่งทหารหลายหมื่นนายเข้าช่วยมอสโกทำสงคราม ในขณะที่หน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีเหนือระบุในวันศุกร์ (18 ต.ค.) เกาหลีเหนือส่งกองกำลังพิเศษ 1,500 นาย ไปยังภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย เพื่อทำการฝึกฝน
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ บอกในวันเสาร์ (19 ต.ค.) ไม่สามารถยืนยันข่าวที่ว่าเกาหลีเหนือส่งทหารเข้าไปยังรัสเซีย ก่อนหน้าความเป็นไปได้เกี่ยวกับการประจำการ อย่างไรก็ตาม หากความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นจริง มันจะเป็นสิ่งที่น่ากังวล ขณะที่ มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต ระบุในวันพฤหัสบดี (17 ต.ค.) ยอมรับว่าในนั้นนี้ยังไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับการปรากฏตัวของกำลังพลเกาหลีเหนือ
รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสและยูเครน ระบุในถ้อยแถลงร่วมในกรุงเคียฟเมื่อวันเสาร์ (19 ต.ค.) ว่าการเข้ามาเกี่ยวข้องของกองกำลังประจำการเกาหลีเหนือ สำหรับให้การสนับสนุนการรุกรานยูเครนของรนัสเซีย จะทำให้สงครามลุกลามบานปลายอย่างร้ายแรง
(ที่มา : รอยเตอร์)