เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เดินทางจากสหรัฐฯ เข้ากรุงเบอร์ลินวันศุกร์ (18 ต.ค.) พบ 3 ผู้นำสำคัญของนาโตจากเยอรมนี อังกฤษ และฝรั่งเศส หารือเครียดปัญหายูเครน-ตะวันออกกลางหลังเลือกตั้งสหรัฐฯ วันที่ 5 พ.ย. ขณะที่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ตั้งโต๊ะแถลงวันเดียวกันว่า มอสโกจะถือเป็นการยั่วยุหากยูเครนมีอาวุธนิวเคลียร์ในมือ
เลอมงด์ (Le Monde) ของฝรั่งเศสรายงานวันอาทิตย์ (20 ต.ค.) ว่า เสียงความเห็นระหว่างการประชุมด่วนระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง และนายกรัฐมนตรีเยอรมนี โอลาฟ ชอลซ์ นั้นแตกแยกในประเด็นการเชิญยูเครนร่วมองค์การนาโต
ซึ่งตามข้อเสนอโดยประธานาธิบดีเซเลนสกีนั้นชี้ไปว่า ช่วงเวลาดีที่สุดที่ยูเครนจะเข้าร่วมนาโตได้นั้นน่าจะเป็นก่อนเดือนธันวาคมและเป็นช่วงเวลาท้ายของการดำรงตำแหน่งของไบเดนพอดี และการเข้าร่วมนาโตในความเป็นจริงจะเริ่มขึ้นหลังจากสงครามสิ้นสุด
ตามมุมมองของยูเครนชี้ว่า การที่เคียฟเข้าร่วมนาโตได้จะกลายเป็นหลักประกันทางความมั่นคงที่ดีที่สุดในการหยุดการรุกรานจากรัสเซีย
ซึ่งประเด็นของการหารืออยู่ที่แผนแห่งชัยชนะ (victory plan) ที่ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ได้เสนอต่อคนเหล่านี้ เป็นการหารือเกิดขึ้นในอีก 3 สัปดาห์สหรัฐฯ กำลังจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น และการเยือนครั้งนี้ยังเป็นเสมือนการอำลาของเขาต่อเพื่อนชาติพันธมิตรของไบเดน ซึ่งเขาอยู่ในดินแดนเยอรมนีไม่ถึง 24 ชม.ก่อนเดินทางกลับออกไป
และก่อนหน้าการประชุมซัมมิตเขาได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงเยอรมนี Grand Cross special class of the Order of Merit จากประธานาธิบดีเยอรมนี อ้างอิงจาก VOA ของสหรัฐฯ
ในการประชุมซัมมิตยังมีการหารือประเด็นปัญหาตะวันออกกลาง โพลิติโกรายงานว่า ทั้งไบเดน และชอลซ์มีความเห็นตรงกันว่า การเสียชีวิตของหัวหน้ากลุ่มฮามาส ยาห์ยาร์ ซินวาร์ นั้นจะเปิดโอกาสต่อการหยุดยิงในเขตฉนวนกาซา
และในวันเดียวกัน (18) ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน กล่าวในการประชุมหัวหน้าสื่อชาติต่างๆ ของกลุ่ม BRICS ระบุว่า หากว่ายูเครนนั้นสามารถมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในความครอบครอง รัสเซียจะถือเป็นการยั่วยุ
สปุตนิกนิวส์ของรัสเซียรายงานวันเสาร์ (19) ว่า มีรายงานเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ในยูเครนนั้นถือเป็นอีกหนึ่งการยั่วยุ ประธานาธิบดีปูตินกล่าว
ทั้งนี้ ในวันพฤหัสบดี (17) ผู้นำยูเครนได้แถลงต่อหน้าผู้นำชาติสมาชิก EU ในการประชุมซัมมิตที่กรุงบรัสเซลส์ว่า ยูเครนจำเป็นต้องได้รับการเชิญให้เข้าร่วมนาโต หรือไม่เคียฟจำเป็นต้องกลับมาติดอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง หนังสือพิมพ์เยอรมนี บิลด์ (Bild) รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวเคียฟที่ไม่เปิดเผยชื่อ ที่มีรายงานว่ายูเครนสามารถพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นเพื่อใช้กับรัสเซียหากตะวันตกปฏิเสธการตอบรับเข้าร่วมนาโต
“นี่เป็นอีกหนึ่งการยั่วยุ” ปูตินกล่าวระหว่างการประชุมร่วมกับตัวแทนสื่อชาติสมาชิก BRICS ซึ่งในปีนี้มีรัสเซียเป็นเจ้าภาพ พร้อมเสริมต่อว่า มาตรการใดๆ ของยูเครนต่อการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์จากยูเครนจะได้รับการตอบโต้อย่างเหมาะสม
เขากล่าวว่า มันไม่เป็นการยากที่จะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ในโลกยุคใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่ชัดเจนว่ายูเครนมีความสามารถในการทำเช่นนั้น
ประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวว่า มอสโกจะไม่ปล่อยให้การปรากฏของอาวุธนิวเคลียร์ในยูเครนไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด พร้อมเสริมต่อว่า และอีกทั้งรัสเซียจะติดตามหากว่ามีตะวันตกชาติใดต้องการเคลื่อนย้ายอาวุธนิวเคลียร์มาที่ยูเครน