หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้แถลงวานนี้ (18 ต.ค.) ว่า เกาหลีเหนือมีการส่งหน่วยรบพิเศษ 1,500 นายเข้าไปยังฐานทัพในภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซียเพื่อปรับตัวให้คุ้นชินกับสภาพอากาศ และคาดว่าทหารเหล่านี้กำลังจะถูกส่งไปรบแนวหน้าในสมรภูมิยูเครน
สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ระบุว่าได้ทำงานร่วมกับหน่วยข่าวกรองยูเครน โดยใช้เทคโนโลยีเอไอในการรู้จำใบหน้า (facial recognition) เพื่อระบุตัวตนของทหารเกาหลีเหนือที่เข้าไปช่วยสนับสนุนทหารรัสเซียในภูมิภาคโดเนตสก์ในการใช้ขีปนาวุธโสมแดง
หน่วยข่าวกรองโสมขาวยังเผยด้วยว่า ตั้งแต่เดือน ส.ค. ปีที่แล้ว เกาหลีเหนือมีการส่งเครื่องกระสุน ขีปนาวุธทิ้งตัว และจรวดต่อต้านรถถังให้รัสเซียเป็นจำนวนมากกว่า 13,000 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยอ้างอิงจากเศษซากอาวุธที่พบในสนามรบยูเครน
ทั้งนี้ เกาหลีใต้ประเมินว่าน่าจะมีกระสุนและจรวดถูกส่งจากเกาหลีเหนือไปยังรัสเซียไม่ต่ำกว่า 8 ล้านหน่วย
“ความร่วมมือทางทหารโดยตรงระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือตามที่มีสื่อต่างชาติรายงาน ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้ว” หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ระบุในคำแถลง
หน่วยงานแห่งนี้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เรือของกองเรือแปซิฟิกรัสเซียได้นำหน่วยรบพิเศษเกาหลีเหนือราว 1,500 นายเดินทางไปยังวลาดิวอสต็อกระหว่างวันที่ 8-13 ต.ค. และคาดว่าจะมีการลำเลียงเข้าไปเพิ่มเติมอีกเร็วๆ นี้
ทหารโสมแดงเหล่านี้จะได้รับเครื่องแบบและอาวุธของรัสเซีย รวมถึงเอกสารยืนยันตัวตนปลอมที่จะใช้เวลาถูกส่งไปออกรบ
ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนออกมากล่าวหาในวันพฤหัสบดี (17) ว่า เกาหลีเหนือมีการส่งทหารไปร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับรัสเซีย และกำลังเตรียมส่งทหารเพิ่มอีก 10,000 นายเข้าไปยังสมรภูมิยูเครน ทว่า มาร์ก รึตเตอ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ระบุว่า “ยังไม่ปรากฏหลักฐาน” ว่ามีทหารของเปียงยางเข้าร่วมสงครามด้วยในขณะนี้
ที่มา : รอยเตอร์