เจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงของไต้หวันชี้ จีนกำลังเสริมเขี้ยวเล็บเพื่อเปลี่ยนการซ้อมรบให้เป็นการบุกโจมตีเต็มขั้น (full-out attack) ได้อย่างรวดเร็ว
ข้อมูลดังกล่าวเป็นการประเมินของไทเปต่อยุทธศาสตร์ของจีนที่อยู่เบื้องหลังการซ้อมรบใหญ่รอบเกาะไต้หวันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (14 ต.ค.)
จีนได้เปิดการซ้อมรบภายใต้ชื่อรหัสว่า Joint Sword-2024B ในวันจันทร์ (14) เพื่อส่งสัญญาณเตือนไปถึงพวกที่ "ทำกิจกรรมแบ่งแบกดินแดน" รวมถึงเป็นการตอบโต้คำแถลงของประธานาธิบดี ไล่ ชิงเต๋อ แห่งไต้หวันเนื่องในวันชาติสาธารณรัฐจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ไต้หวันร้องเรียนว่าถูกจีนทำกิจกรรมทางทหารข่มขู่แทบจะรายวัน ในจำนวนนี้เป็นการซ้อมรบขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง และปฏิบัติการลาดตระเวนร่วมเพื่อความพร้อมทางยุทธวิธี (joint combat readiness patrol) ที่จัดขึ้นเป็นประจำ
“พวกเขายกระดับศักยภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปลี่ยนการซ้อมรบให้กลายเป็นสงคราม” เจ้าหน้าที่ไต้หวันผู้ไม่ประสงค์ออกนามให้สัมภาษณ์สื่อที่กรุงไทเป
กระทรวงกลาโหมไต้หวันตรวจพบเครื่องบินทหารจีนเข้าร่วมการซ้อมรบครั้งนี้มากถึง 153 ลำ นอกจากนี้ ยังมีเรือกองทัพเรือและเรือยามฝั่งจีนอีก 25 ลำที่เฉียดเข้าไปใกล้เขตต่อเนื่อง (The Contiguous Zone) ในรัศมี 39 กิโลเมตรจากชายฝั่งของไต้หวัน
“พวกเขาขยับเข้ามาใกล้ไต้หวันมากขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงเจตนาที่จะเพิ่มแรงกดดัน และทำให้ไต้หวันมีเวลาตอบสนองน้อยลง” เจ้าหน้าที่คนเดิมกล่าว
“การซ้อมรบครั้งนี้ถือเป็นภัยคุกคามต่อไต้หวันมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา”
เจ้าหน้าที่รายนี้ยังระบุด้วยว่า จีนมีการยิงขีปนาวุธ 2 ลูกเข้าไปโจมตีเป้าหมายในดินแดนตอนใน แต่ไม่ขอให้รายละเอียด
“แม้ว่าขีปนาวุธเหล่านั้นจะไม่ได้ถูกยิงมาในทิศทางของไต้หวัน แต่ยังไงพวกเขาก็มีการซ้อมยิง” เขากล่าว
กระทรวงกลาโหมจีนยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ทว่าเมื่อวันจันทร์ (14) จีนประกาศว่าจะใช้มาตรการอื่นๆ กับไต้หวันหากมีความจำเป็น และต่อมาในวันพุธ (16) สำนักงานกิจการไต้หวันของจีนก็ยืนยันว่า ปักกิ่ง “ไม่มีวัน” รับปากว่าจะไม่ใช้กำลังทหารกับไต้หวัน
หน่วยข่าวกรองไต้หวันตรวจพบสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าจีนอาจมีการซ้อมรบ และได้ส่งทรัพย์สินทางยุทธวิธีต่างๆ รวมถึงแท่นยิงขีปนาวุธไปประจำการตามจุดยุทธศาสตร์ ก่อนที่ปักกิ่งจะประกาศเปิดการซ้อมรบในช่วงเช้ามืดวันจันทร์ (14)
ที่มา : รอยเตอร์