สื่อพนมเปญโพสต์ตีข่าวมีผู้เสียหายจากกรณี "ดิไอคอนกรุ๊ป" ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงาม ถูกกล่าวหาว่าการดำเนินธุรกิจอาจเข้าข่ายการหลอกลงทุนในลักษณะแชร์ลูกโซ่ ทั้งในลาว กัมพูชา และพม่า ขณะที่ผู้หญิงไทยในญี่ปุ่น ได้แจ้งผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่าเธอก็ตกเป็นเหยื่อด้วยเช่นกัน
หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์รายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ตำรวจไทยเปิดเผยว่ามีคนจำนวนหนึ่งยื่นเรื่องต่อกองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง เอาผิดกับดิไอคอนกรุ๊ป แล้วมากกว่า 500 คน ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 200 ล้าน
สื่อกัมพูชาแห่งนี้ ระบุว่า เหยื่อชาวไทยเหล่านั้นให้ข้อมูลกับตำรวจว่า พวกเขาถูกล่อลวงให้เป็นตัวแทนจำหน่ายหรือผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของทางบริษัท ภายใต้คำสัญญาว่าผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า อย่างไรก็ตาม มันลงเอยด้วยการที่สินค้าขายไม่ออก แถมยังได้รับคำแนะนำให้ไปเกณฑ์ตัวแทนจำหน่ายมาอยู่ภายใต้สังกัดเพิ่มเติม เพื่อที่พวกเขาจะได้รับผลตอบแทน จากเงินลงทุนของผู้สมัครรายใหม่
พนมเปญโพสต์รายงานว่า สื่อสังคมออนไลน์ของไทยแชร์โพสต์ต่างๆ ที่เผยให้เห็นว่ามีเหยื่อของอุบายนี้อยู่ในบรรดาประเทศเพื่อนบ้าน 3 ชาติด้วยเช่นกัน ในนั้นประกอบด้วย ลาว กัมพูชา และพม่า
รายงานของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ระบุว่าบรรดาผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในไทยแชร์ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ซีอีโอของดิไอคอนกรุ๊ป ขณะกำลังเปิดธุรกิจในลาวเมื่อไม่กี่ปีก่อน กิจกรรมนี้ถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต ถึงขั้นมีศิลปินและนักแสดงชั้นนำของไทยมาร่วมปรากฏตัวบนเวที เพื่อรับประกันความน่าเชื่อถือของบริษัท
หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ ระบุในประเทศลาว มีรายงานข่าวว่า ทางดิไอคอนกรุ๊ป สามารถเกณฑ์สมาชิกได้มากกว่า 1,000 คน ในนั้นรวมถึงเหล่าคนในวงการบันเทิงและบรรดาคนดังของประเทศ
นอกจากนี้ ทางพนมเปญโพสต์เปิดเผยด้วยว่าศิลปินและนักแสดงของไทย 3 คนที่ถูกประชาสัมพันธ์ในฐานะผู้บริหารของบริษัท ยังได้มาร่วมโปรโมตดิไอคอนกรุ๊ปในกัมพูชาและพม่า และเชิญชวนพลเมืองของทั้ง 2 ประเทศ ร่วมลงทุนมาเป็นตัวแทนจำหน่ายของทางบริษัท
ขณะเดียวกัน สื่อกัมพูชาแห่งนี้รายงานว่ามีผู้หญิงไทยรายหนึ่งในญี่ปุ่น แจ้งผ่านทางเพจเฟซบุ๊กที่มีชื่อเสียงเพจหนึ่ง ว่าเธอถูกล่อลวงให้มาเป็นหัวหน้าเครือข่ายของดิไอคอนกรุ๊ป เธอได้แนะนำธุรกิจนี้แก่คนไทยหลายคนในญี่ปุ่น ซึ่งสุดท้ายแต่ละคนต้องจบลงด้วยการสูญเสียเงินลงทุน
เธอเผยว่าหลายคนได้เงินคืนมาเพียง 4,000 บาท หลังจากลงทุนไปคนละ 250,000 บาท ในฐานะตัวแทนจำหน่ายของดิไอคอนกรุ๊ป
(ที่มา : พนมเปญโพสต์)