ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ในวันพุธ (16 ต.ค.) หลังจากดิ่งลง 7% หนึ่งวันก่อนหน้านี้ คาดการณ์อุปสงค์อ่อนแอและความกังวลลดลงต่อความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ส่วนวอลล์สตรีทฟื้นตัว ได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการบริษัท ขณะที่ทองคำปิดบวกเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 19 เซนต์ ปิดที่ 70.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 3 เซนต์ ปิดที่ 74.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันขยับลงต่อเนื่องจากแนวโน้มอุปสงค์อ่อนแอ และสื่อมวลชนรายงานว่าอิสราเอลจะไม่โจมตีที่้ตั้งทางนิวเคลียร์และน้ำมันของอิหร่าน คลายความกังวลต่อสถานการณ์ความยุ่งเหยิงทางอุปทาน
ขณะเดียวกัน ในแง่ของอุปสงค์ โอเปกและทบวงพลังงานสากล (ไออีเอ) เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ปรับลดประมาณการอุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2024 อีกรอบ ส่วนใหญ่เป็นผลจากอุปสงค์ที่อ่อนแอในจีน ชาติผู้บริโภครายใหญ่ที่สุด อันเนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (16 ต.ค.) ฟื้นตัวเล็กน้อยจากขยับลงหนึ่งวันก่อนหน้านี้ ในขณะที่ฤดูกาลรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนเริ่มต้นในทิศทางที่ค่อนข้างออกมาเป็นบวก
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 337.28 จุด (0.79 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 43,077.70 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 27.21 จุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,842.47 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 51.49 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,367.08 จุด
ในบรรดาบริษัทที่รายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ สถาบันการเงินมอร์แกน สแตนลีย์ รายงานในวันพุธ (16 ต.ค.) มีผลประกอบการไตรมาส 2 ดีกว่าที่คาดหมายไว้ หลังจากก่อนหน้านี้หนึ่งวัน โกลด์แมน แซคส์ สถาบันการเงินอีกหนึ่งเผยว่ามีกำไรพุ่งทะยาน
ส่วนราคาทองคำปรับขึ้นต่อเนื่องในวันพุธ (16 ต.ค.) ใกล้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางความคาดหมายธนาคารกลางหลักๆ จะเคลื่อนไหวปรับลดดอกเบี้ย และนักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ จากความกังวลต่อความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์
โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 11.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,690.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)