จะฟังไหม! สหรัฐฯ ขู่จำกัดความช่วยเหลือทางทหารต่อ ‘อิสราเอล’ หากไม่แก้วิกฤตมนุษยธรรมใน ‘กาซา’

รัฐบาลสหรัฐฯ บอกกับอิสราเอลว่าจะต้องดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมภายในเดือนหน้าเพื่อแก้ไขวิกฤตมนุษยธรรมในกาซา ไม่เช่นนั้นอาจถูก “จำกัด” ความช่วยเหลือทางทหาร ซึ่งถือเป็นคำเตือนที่แรงที่สุดจากวอชิงตันนับตั้งแต่อิสราเอลเริ่มทำสงครามแก้แค้นฮามาสเมื่อปีที่แล้ว

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ให้ข้อมูลกับรอยเตอร์วานนี้ (15 ต.ค.) ว่า แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ได้ร่อนจดหมายถึงเจ้าหน้าที่อิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ (13) โดยเรียกร้องให้มีมาตรการที่เป็นรูปธรรมในการแก้ไขวิกฤตมนุษยธรรมในฉนวนกาซา ท่ามกลางปฏิบัติการโจมตีครั้งใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในตอนเหนือของดินแดนแห่งนี้

รัฐมนตรีทั้งสองย้ำว่า หากอิสราเอลไม่ทำตามคำขอ ก็อาจกระทบต่อนโยบายของสหรัฐฯ ในการมอบความช่วยเหลือทางทหารต่อรัฐยิว

“เรามีความกังวลเป็นพิเศษว่าการกระทำของรัฐบาลอิสราเอลในช่วงหลังๆ... กำลังเป็นตัวเร่งให้สถานการณ์ในกาซาเลวร้ายลง” สำเนาจดหมายซึ่งถูกโพสต์ลงบน X โดยนักข่าวของ Axios ระบุ

จดหมายฉบับนี้ยังอ้างเรื่องที่อิสราเอลจำกัดการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค ห้ามไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายด้านมนุษยธรรมเกือบทุกอย่างระหว่างตอนเหนือกับตอนใต้ของกาซา รวมไปถึงข้อจำกัดที่ “สร้างภาระและรุนแรงเกินเหตุ” เกี่ยวกับสินค้าที่จะสามารถนำเข้าสู่กาซาได้


จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ระบุว่า จดหมายนี้ไม่ได้มีเจตนาข่มขู่อิสราเอล แต่ย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังกาซา

“เราเห็นว่าทางอิสราเอลเองก็ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้” เคอร์บีย์ กล่าวโดยไม่ลงรายละเอียด

จดหมายฉบับนี้ถือเป็นการยื่นคำขาดชัดเจนที่สุดไปยังนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลนับตั้งแต่สงครามกาซาเริ่มขึ้น และมีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ อาจปรับท่าทีในการสนับสนุนรัฐยิวหาก เนทันยาฮู ไม่ตอบสนอง

เนื้อความในจดหมายเอ่ยถึงมาตรการต่างๆ ที่อิสราเอลจะต้องกระทำภายใน 30 วัน เช่น อนุญาตให้รถบรรทุกส่งความช่วยเหลือเข้ากาซาไม่ต่ำกว่าวันละ 350 คัน ต้องมีช่วงพักรบเพื่อเปิดทางในการกระจายความช่วยเหลือ และหยุดออกคำสั่งอพยพพลเรือนปาเลสไตน์หากไม่มีความจำเป็นในเชิงปฏิบัติการ

จดหมายนี้ยังอ้างอิงถึงมาตรา 620i ในกฎหมาย Foreign Assistance Act ซึ่งห้ามไม่ให้วอชิงตันส่งมอบความช่วยเหลือทางทหารให้แก่ประเทศที่ขัดขวางการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของสหรัฐอเมริกา รวมถึงอ้างบันทึกความเข้าใจด้านความมั่นคงแห่งชาติที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ออกเมื่อเดือน ก.พ. ซึ่งกำหนดให้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ต้องส่งรายงานต่อสภาคองเกรสว่า คำรับรองของอิสราเอลที่ว่าจะนำอาวุธของอเมริกาไปใช้ในทางที่ไม่ละเมิดกฎหมายสหรัฐฯ หรือกฎหมายระหว่างประเทศ “น่าเชื่อถือหรือไม่” ด้วย

ที่มา : รอยเตอร์