กระทรวงกลาโหมไต้หวันออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของเครื่องบินทหารจีนรอบเกาะไต้หวันระหว่างที่ปักกิ่งมีการซ้อมรบใหญ่เมื่อวันจันทร์ (14 ต.ค.) โดยระบุว่าคราวนี้จีนได้ส่งอากาศยานเข้าร่วมมากเป็นประวัติการณ์ถึง 153 ลำ
จีนได้เปิดการซ้อมรบภายใต้ชื่อรหัสว่า Joint Sword-2024B ในวันจันทร์ (14) เพื่อส่งสัญญาณเตือนไปถึงพวกที่ "ทำกิจกรรมแบ่งแบกดินแดน" รวมถึงเป็นการตอบโต้คำแถลงของประธานาธิบดี ไล่ ชิงเต๋อ แห่งไต้หวันเนื่องในวันชาติสาธารณรัฐจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ในรายงานอัปเดตกิจกรรมทางทหารของจีนรอบเกาะไต้หวันในช่วง 24 ชั่วโมง กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า มีการตรวจพบอากาศยานทหารจีนมากถึง 153 ลำ เพิ่มขึ้นจากตัวเลข 125 ลำที่แถลงไปเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ ซึ่งถือว่ามากเป็นประวัติการณ์ในรอบวันอยู่แล้ว
ในบรรดาเครื่องบินเหล่านี้ มีอยู่ 28 ลำที่บินข้ามเส้นมัธยฐาน (median line) ในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งถือกันว่าเป็นเส้นแบ่งเขตแดนแบบไม่เป็นทางการระหว่างจีนกับไต้หวัน แต่รัฐบาลปักกิ่งไม่ยอมรับว่ามีอยู่
กิจกรรมทางทหารของจีนยังเกิดขึ้นที่นอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของไต้หวันซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพอากาศขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของไทเป รวมถึงที่นอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ และส่วนเหนือของทะเลจีนใต้ซึ่งมีหมู่เกาะปราตัส (Pratas Islands) ที่เป็นดินแดนในควบคุมของไต้หวัน
กระทรวงกลาโหมไต้หวันยังรายงานว่าตรวจพบเรือรบของกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีน 14 ลำ และ "เรือทางการ" (official ships) อีก 12 ลำ ซึ่งหมายถึงเรือของยามฝั่งจีนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จั๋ว หรงไท่ (Cho Jung-tai) นายกรัฐมนตรีไต้หวัน ให้สัมภาษณ์สื่อที่กรุงไทเปว่า ปฏิบัติการซ้อมรบของจีนไม่ใช่เป็นปัญหากับเฉพาะไต้หวันเท่านั้น
"การซ้อมรบโดยไม่แจ้งเตือนล่วงหน้าย่อมถือเป็นการรบกวนสันติภาพและเสถียรภาพต่อทั้งภูมิภาค" เขากล่าว "การซ้อมรบของจีนไม่เพียงส่งผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบเกาะไต้หวัน แต่ยังกระทบต่อสิทธิในการเดินเรือของนานาชาติ รวมไปถึงการใช้น่านฟ้าและทะเล ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ประเทศอื่นๆ ให้ความสนใจด้วย"
รัฐบาลไต้หวันปฏิเสธการอ้างอธิปไตยของจีน และยืนยันว่าอนาคตของเกาะไต้หวันมีเพียงชาวไต้หวันเท่านั้นที่มีสิทธิตัดสินใจ
ที่มา : รอยเตอร์