สหรัฐฯ ออกคำสั่งประจำการระบบป้องกันภัยทางอากาศ THAAD ในอิสราเอล เช่นเดียวกับกำลังพลอเมริกาจำนวนหนึ่งที่ทำหน้าที่ปฏิบัติการระบบดังกล่าว จากการเปิดเผยของ พล ต.แพท ไรเดอร์ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของเพนตากอน เมื่อวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ความเคลื่อนไหวนี้กลายเป็นครั้งแรกที่อเมริกาประจำการทหารสู้รบในแผ่นดินอิสราเอล นับตั้งแต่สงครามระหว่างรัฐยิวและฮามาสเริ่มต้นขึ้นเมื่อปีที่แล้ว
คำแถลงของ พล.ต.ไรเดอร์ ระบุว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศ THAAD และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในบุคลากรทางทหารของกองทัพสหรัฐฯ จะเข้าประจำการในอิสราเอล เพื่อช่วยเสริมการป้องกันภัยทางอากาศแก่อิสราเอล ตามหลังอิหร่านปฏิบัติการโจมตีอย่างไม่เคยมีมาก่อนเล่นงานอิสราเอล เมื่อวันที่ 13 เมษายน และอีกครั้งในวันที่ 1 ตุลาคม
อย่างไรก็ตาม ไรเดอร์ เน้นย้ำคำกล่าวของประธานธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ที่เคยบอกว่า "ไม่มีแผนหรือความตั้งใจส่งกำลังพลอเมริกาลงสู่ภาคสนามในการสู้รบ" พร้อมเผยว่าความเคลื่อนไหวล่าสุดเป็นไปตามคำสั่งของไบเดน
THAAD หรือระบบป้องกันภัยทางอากาศในบรรยากาศชั้นสูง คือระบบเคลื่อนที่ต่อต้านขีปนาวุธ ที่ออกแบบมาเพื่อตรวจจับและสกัดขีปนาวุธในขั้นที่กำลังดิ่งลงมา มันสามารถยิงกระสุนที่ไม่ระเบิดออกไปด้วยความเร็วเหนือเสียง 8 เท่า และพึ่งพาพลังงานจลน์ในการทำลายขีปนาวุธที่พุ่งเข้ามา
กองกำลัง THAAD หนึ่งประกอบด้วยทหาร 95 ราย และแท่นยิงขีปนาวุธที่ติดตั้งอยู่บนรถบรรทุก 6 แท่น ที่มีศักยภาพยิงตัวสกัดกั้นออกไปรวมแล้ว 48 ลูก
สหรัฐฯ ประจำการกองกำลัง THAAD ชุดหนึ่ง ในซาอุดีอาระเบีย หลังจากสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสเริ่มต้นขึ้นในเดือนตุลาคมปีก่อน รวมถึงเคยประจำการในอิสราเอลเพื่อทำการซ้อมรบในปี 2019 อย่างไรก็ตามอเมริกาไม่เคยส่งระบบดังกล่าวหรือกำลังพลที่ปฏิบัติการระบบนี้เข้าไปยังอิสราเอล นับตั้งแต่ความขัดแย้งปัจจุบันเริ่มต้นขึ้น
แม้ทหารอเมริกาเข้ามีส่วนร่วมในภารกิจช่วยเหลือช่วงสั้นๆ นอกชายฝั่งกาซาเมื่อช่วงต้นปี แต่พวกเขาไม่ได้ย่างเท้าก้าวเข้าสู่ฉนวนของชาวปาเลสไตน์
อย่างไรก็ตาม การประจำการครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่อิสราเอลเตรียมพร้อมตอบโต้กรณีที่อิหร่านยิงห่าขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม เตหะรานยืนกรานว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นการตอบโต้ที่ชอบด้วยกฎหมาย ต่อปฏิบัติการของอิสราเอลที่ลอบสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฮามาสในเตหะราน รวมถึงฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ และนายพลระดับสูงรายหนึ่งของอิหร่านในกรุงเบรุต
อิสราเอลถูกคาดหมายอย่างกว้างขวางว่าจะทำการเล็งเป้าเล่นงานโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำมันและนิวเคลียร์ของอิหร่าน แม้สหรัฐฯ ส่งเสียงคัดค้าน ในขณะที่อิหร่านประกาศกร้าวว่าจะแก้แค้นอย่างทัดเทียม ไม่ว่าอิสราเอลจะตอบโต้ในรูปแบบใดก็ตาม
แหล่งข่าวในเตหะรานบอกกับอาร์ทีนิวส์ ว่า การแก้แค้นจะเป็นไปอย่างเท่าเทียม หากว่าอิสราเอลโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำมันของอิหร่าน โดยอิหร่านจะโจมตีโรงกลั่้นน้ำมันของอิสราเอลเช่นกัน ขณะที่การโจมตีใดๆ เล่นงานโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ อย่างเช่นโรงไฟฟ้าและโรงงานนิวเคลียร์ จะกระตุ้นการโจมตีตอบโต้แหล่งที่ตั้งแบบเดียวกันในอิสราเอล
ไซเอด อับบาส อารากชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ส่งเสียงเตือนก่อนมีคำแถลงของ พล.ต.ไรเดอร์ ว่าอเมริกากำลังทำให้ชีวิตกำลังพลของตนเองตกอยู่ในความเสี่ยง ด้วยการส่งพวกเขาเข้าไปปฏิบัติการระบบขีปนาวุธของสหรัฐฯ ในอิสราเอล
"ในขณะที่เราใช้ความพยายามมากมายในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ในการควบคุมไม่ให้เกิดสงครามเต็มรูปแบบในภูมิภาคของเรา ผมขอพูดอย่างชัดๆ ว่า เราไม่มีเส้นตายในการป้องกันประชาชนของเราและผลประโยชน์ของเรา" อารากชี ระบุ
(ที่มา :ิอาร์ทีนิวส์)