รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลรับปากกับนายใหญ่เพนตากอน จะหลีกเลี่ยงการทำให้เกิดอันตรายกับกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นที่ประจำอยู่ทางใต้ของเลบานอน หลังเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 5 คนได้รับบาดเจ็บในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และ 40 ชาติออกแถลงการณ์ประณามยิวจงใจโจมตี ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นว่า ปฏิบัติการล้างแค้นอิหร่านของอิสราเอลจะจำกัดเป้าหมายเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านการทหารและพลังงาน รวมทั้งไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่า ยิวเล็งโจมตีที่ตั้งด้านนิวเคลียร์ หรือลอบสังหารผู้นำเตหะราน
กระทรวงกลาโหมอิสราเอลแถลงในวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ว่า รัฐมนตรีโยอาฟ กัลแลนต์ ได้แจ้งกับลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมอเมริกา ระหว่างหารือทางโทรศัพท์เมื่อคืนวันเสาร์ (12 ต.ค.) ว่า กองทัพอิสราเอลจะดำเนินมาตรการเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้เกิดอันตรายกับเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติที่ประจำอยู่ทางใต้ของเลบานอน หรือยูนิฟิล
ความเคลื่อนไหวเช่นนี้มีขึ้นหลังจากยูนิฟิลกล่าวหากองทัพอิสราเอลจงใจโจมตีเจ้าหน้าที่ของตน โดยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมากองกำลังยูนิฟิลถูกโจมตีหลายครั้งในเมืองนาคูรา ของเลบานอน ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์บัญชาการของยูนิฟิล รวมถึงในที่ตั้งอื่นๆ และมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจนถึงขณะนี้อย่างน้อย 5 คน
ในวันเสาร์ 40 ประเทศสมาชิกยูเอ็นที่ส่งทหารเข้าร่วมในยูนิฟิล เช่น จีน อินโดนีเซีย อินเดีย มาเลเซีย ฝรั่งเศส และอิตาลี ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กองทัพอิสราเอลหยุดพฤติกรรมดังกล่าวทันที รวมทั้งเปิดการสอบสวนอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ ยูนิฟิล ที่มีทหารราว 9,500 นายจาก 50 ประเทศ มีภารกิจในการติดตามตรวจสอบการหยุดยิงซึ่งนำไปสู่การยุติสงคราม 33 วันในปี 2006 ระหว่างอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์
นอกจากนั้น แอนเดรีย เทเนนติ โฆษกยูนิฟิล ยังแสดงความกังวลว่า การสู้รบที่ไม่มีทีท่าจะยุติลงระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในเลบานอนที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน อาจลุกลามเป็นการสู้รบขัดแย้งระดับภูมิภาคที่ส่งผลร้ายแรงอย่างมากต่อทุกฝ่ายในเร็วๆ นี้
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีนาจิบ มิกาติ ของเลบานอน เผยว่า รัฐบาลจะขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นออกญัตติใหม่เรียกร้องการหยุดยิงโดยสิ้นเชิงทันที
ทั้งนี้ ความพยายามผลักดันการเจรจาเพื่อยุติการสู้รบทั้งในเลบานอนและกาซาล้มเหลวมาโดยตลอด
ในอีกด้านหนึ่ง อิหร่านตอกย้ำการสนับสนุนฮิซบอลเลาะห์ ด้วยการส่งโมฮัมหมัด บาเกอร์ กาลิบาฟ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เดินทางไปยังสถานที่แห่งหนึ่งในเลบานอนซึ่งถูกอิสราเอลโจมตีรุนแรง โดยแหล่งข่าววงในเผยว่า การโจมตีดังกล่าว รัฐยิวพุ่งเป้าที่ วาฟิก ซาฟา ผู้นำฝ่ายความมั่นคงของฮิซบอลเลาะห์
การเยือนของกาลิบาฟเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเกิดขึ้นหลังจากอิสราเอลย้ำมาตลอดว่า จะตอบโต้การโจมตีของอิหร่านซึ่งระดมยิงขีปนาวุธนับร้อยลูกเข้าใส่ดินแดนอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมา โดยทางเตหะรานบอกว่า เป็นการล้างแค้นให้ผู้นำฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ที่ถูกกองทัพยิวลอบสังหาร
หลายฝ่ายแสดงความวิตกว่า การแก้เผ็ดเอาคืนของอิสราเอล จะทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางยิ่งเดือดพล่าน มีโอกาสสูงที่จะขยายเป็นสงครามใหญ่ระดับภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม เอ็นบีซีนิวส์ หรือฝ่ายข่าวของเครือข่ายทีวีเอ็นบีซีในสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันอาทิตย์โดยอ้างอิงการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หลายคนที่แสดงความเชื่อมั่นว่า การตอบโต้ของอิสราเอลจะจำกัดขอบเขตที่โครงสร้างพื้นฐานด้านการทหารและพลังงานของอิหร่านเท่านั้น พร้อมสำทับว่า ขณะนี้ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่า อิสราเอลจะโจมตีที่ตั้งด้านนิวเคลียร์ หรือลอบสังหารผู้นำเตหะรานแต่อย่างใด
รายงานสำทับว่า อิสราเอลยังไม่ได้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่า จะลงมืออย่างไรและเมื่อใด ทว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และอิสราเอลเผยว่า การตอบโต้น่าจะเกิดขึ้นระหว่างเทศกาลวันหยุดเนื่องในวันยมคิปปูร์ของอิสราเอลในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (12-13 ต.ค.)
สำหรับสถานการณ์การสู้รบในเลบานอนยังคงดุเดือด โดยฮิซบอลเลาะห์เผยว่า ได้ขับไล่กองกำลังอิสราเอลที่พยายามบุกเข้าสู่หมู่บ้านแห่งหนึ่งทางใต้ของเลบานอน
ขณะที่กองทัพอิสราเอลเผยว่า ยังคงระดมโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของ “ผู้ก่อการร้าย” ในบริเวณดังกล่าว โดยในวันเสาร์สามารถโจมตีเป้าหมายราว 200 จุดทั่วเลบานอน และสกัดจรวด 5 ลูกที่ยิงมาจากเลบานอนเข้าสู่อิสราเอล
ส่วนทางด้านดินแดนกาซา กองทัพอิสราเอลยังคงพุ่งเป้าโจมตีบริเวณจาบาเลีย ทางตอนเหนือของดินแดนนี้ ที่หน่วยงานช่วยเหลือผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ของยูเอ็น (ยูเอ็นอาร์ดับเบิลยูเอ) ระบุว่า มีพลเรือนหลบภัยอยู่หลายแสนคน
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์)