โบอิ้ง (Boeing) ค่ายอากาศยานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เตรียมเลิกจ้างพนักงาน 17,000 ตำแหน่ง หรือ 10% ของทั้งหมด รวมถึงเลื่อนการส่งมอบเครื่องบิน 777X ไปอีก 1 ปีจากกำหนดเดิม ท่ามกลางวิกฤตพนักงานหยุดงานประท้วงที่ยืดเยื้อมานานนับเดือน
เคลลี ออร์ตเบิร์ก ซีอีโอของโบอิ้ง ระบุในบันทึกข้อความที่ส่งถึงพนักงานว่า บริษัทมีความจำเป็นจะต้องลดขนาดองค์กรลงอย่างมาก “เพื่อให้สอดคล้องกับสถานะทางการเงินที่แท้จริง” หลังพนักงานราว 33,000 คนในฝั่งเวสต์โคสต์ยังคงประท้วงหยุดงานต่อเนื่องจนทำให้สายการผลิตเครื่องบิน 737 MAX, 767 และ 777 ต้องหยุดชะงักลง
“เราจำเป็นต้องรีเซ็ตกำลังคนใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานะทางการเงินที่แท้จริง และจะโฟกัสเฉพาะสิ่งที่จำเป็น ในช่วงไม่กี่เดือนนับจากนี้เรามีแผนลดจำนวนพนักงานลงประมาณ 10% ซึ่งการปรับลดนี้จะครอบคลุมทั้งพนักงานระดับผู้บริหาร ผู้จัดการ และพนักงานทั่วไป” ข้อความจาก ออร์ตเบิร์ก ระบุ
มาตรการนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของ ออร์ตเบิร์ก ซึ่งก้าวขึ้นมากุมบังเหียนโบอิ้งในเดือน ส.ค. ด้วยคำมั่นสัญญาว่าจะปรับจูนความสัมพันธ์กับสหภาพแรงงานและพนักงานโบอิ้งเสียใหม่
ทั้งนี้ คาดว่าโบอิ้งยังเตรียมแถลงตัวเลขรายได้ 17,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การสูญเสียมูลค่าหุ้นไป 9.97 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น และรายจ่ายก่อนหักภาษี (pretax charges) ในธุรกิจด้านกลาโหมและโครงการเครื่องบินโดยสาร 2 รุ่นรวมทั้งสิ้น 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โทมัส เฮเยส ผู้จัดการฝ่ายทุนของ Great Hill Capital มองว่า การเลย์ออฟครั้งนี้อาจจะเป็นแรงกดดันให้พนักงานโบอิ้งต้องเลิกหยุดงานประท้วงในที่สุด
“พนักงานที่หยุดงานประท้วงและไม่ได้รับค่าจ้างชั่วคราวในตอนนี้ ก็คงไม่อยากกลายเป็นคนตกงานที่ไม่มีเงินเดือนตลอดไป” เฮเยส ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ผ่านอีเมล
“ผมคาดว่าการประท้วงหยุดงานน่าจะจบลงภายใน 1 สัปดาห์ เพราะคนงานเหล่านี้ก็คงไม่อยากมีชื่ออยู่ในกลุ่ม 17,000 คนที่จะถูกเลิกจ้าง”
โบอิ้งได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังสายการบินลูกค้าว่าจะเริ่มส่งมอบเครื่องบิน 777X ได้ภายในปี 2026 เนื่องจากโครงการพัฒนาเผชิญอุปสรรคหลายอย่างทั้งในเรื่องของการทดสอบบิน และสายการผลิตที่หยุดชะงักลงไป นอกจากนี้ โบอิ้งก็ยังมีปัญหาเกี่ยวกับการขอใบรับรองความสมควรเดินอากาศสำหรับ 777X จนทำให้แผนเปิดตัวเครื่องบินรุ่นนี้ต้องล่าช้าออกไป
ที่มา : รอยเตอร์