กองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติยังคงมีความมุ่งมั่งปักหลักตามฐานที่ตั้งต่างๆ ทางภาคใต้ของเลบานอน จากคำยืนยันของโฆษกในวันพฤหัสบดี (10 ต.ค.) แม้ต้องเผชิญการโจมตีของอิสราเอลหลายระลอกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ที่ทำให้บุคลากรของสหประชาชาติได้รับบาดเจ็บและก่อความกังวลแก่นานาประเทศ
อันเกีย เทเนนติ โฆษกกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในเลบานอน เปิดเผยว่า อิสราเอลโจมตีกองกำลังสันติภาพที่รู้จักกันในชื่อ UNIFIL ด้วยกระสุนรถถังและอาวุธขนาดเล็ก ส่งผลให้สมาชิกของกองกำลังต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล จากอาการบาดเจ็บ 2 ราย และก่อความเสียหายแก่ศักยภาพในด้านการสังเกตการณ์บางอย่าง ในวันพุธ (9 ต.ค.) และวันพฤหัสบดี (10 ต.ค.)
"ชัดเจนว่า บางทีมันอาจเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดที่เราพบเห็นในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา" เทเนนติกล่าว อ้างถึงเหตุยิงปะทะระหว่างทหารอิสราอลกับกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน
50 ประเทศที่สนับสนุนกองกำลังรักษาสันติภาพในเลบานอน เห็นพ้องต้องกันในวันพฤหัสบดี (10 ต.ค.) จะยังคงกำลังพลของกองกำลังรักษาสันติภาพมากกว่า 10,400 นาย ไว้ตามแถบแม่น้ำลิตานี ทางภาคเหนือ และเขตแดนที่สหประชาชาติรับรอง ระหว่างเลบานอนกับอิสราเอล ที่เรียกกันว่า Blue Line ในทางภาคใต้
"เราเข้าไปอยู่ที่นั่น เพราะว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติขอให้เราไปที่นั่น ดังนั้นเราจะอยู่ไปจนกว่าสถานการณ์จะเลวร้ายลงจนกระทั่งเราไม่อาจปฏิบัติการได้อีกต่อไป" เทเนนติระบุ
UNIFIL เปิดเผยว่ารถถังอิสราเอลคันหนึ่งยิงเข้าใส่หอสังเกตการณ์แห่งหนึ่ง ณ กองบัญชาการหลักของกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ในเมืองนากูรา เมื่อวันพฤหัสบดี (10 ต.ค.) กระสุนพุ่งโดนหอสังเกตการณ์และเป็นเหตุให้สมาชิกกองกำลังรักษาสันติภาพ 2 นาย ร่วงลงมา
นอกจากนี้ ทหารอิสราเอบยังยิงเข้าใส่ฐานที่มั่นอีกแห่งที่อยู่ใกล้กัน ก่อความเสียหายแก่ยานพาหนะและระบบการสื่อสาร และก่อนหน้านั้นในวันพุธ (9 ต.ค.) ได้จงใจยิงใส่และตัดขาดกล้องสังเกตการณ์ในพื้นที่ด้วย ถ้อยแถลงของกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติกล่าว
อิสราเอลเผยว่าทหารของพวกเขาปฏิบัติการใกล้กับฐานที่มั่นของ UNIFIL ในเมืองนากูรา ในวันพฤหัสบดี (10 ต.ค.) แต่อ้างว่าได้สั่งให้กองกำลังรักษาสันติภาพสหประชาชาติปักหลักที่พื้นที่ที่ได้รับการป้องกัน แล้วถึงค่อยเปิดฉากยิง
โฆษกของสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (10 ต.ค.) ระบุว่าอเมริกามีความกังวลอย่างยิ่งต่อรายงานข่าวที่ว่าทหารอิสราเอลยิงเข้าใส่ฐานที่มั่นของกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ทางใต้ของเลบานอน และกำลังกดดันอิสราเอลให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
UNIFIL ได้รับอาณัติจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ให้ความช่วยเหลือกองทัพเลบานอน ในการรักษาพื้นที่ทางภาคใต้ของประเทศให้เป็นเขตปลอดอาวุธและกลุ่มคนติดอาวุธ ซึ่งมันก่อความไม่ลงรอยกับฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเสมือนเป็นผู้ควบคุมพื้นที่ดังกล่าว
อิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ยิงปะทะกับอิสราเอลมาตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2023 เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับฮามาสในกาซา แต่การสู้รบทวีความดุเดือดขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอิสราเอลยกระดับการโจมตีและเปิดฉากรุกรานทางภาคพื้นทั่วชายแดนแถบภูเขาระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน
สถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายทำให้ประชาชนต้องไร้ถิ่นฐาน 1.2 ล้านคนในเลบานอน และทำให้ UNIFIL ต้องระงับปฏิบัติการต่างๆ แทบสิ้นเชิง
ฌอง-ปิแอร์ ลาครัวซ์ หัวหน้ากองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ เผยว่าทาง UNIFIL ตัดสินใจย้ายกำลังพล 300 นาย ไปยังฐานทัพอื่นๆ ที่ใหญ่กว่าเป็นการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ เทเนนติ เสริมว่าบางฐานทัพยังถูกใช้รองรับชาวเลบานอนที่หลบหนีออกมาจากพื้นที่ต่างๆ ที่โดนอิสราเอลทิ้งบอมบ์ถล่มอย่างหนัก
รอยเตอร์รายงานอ้างข้อความบางส่วนที่ทางกองทัพอิสราเอลส่งถึงกองกำลังรักษาสันติภาพสหประชาชาติในสัปดาห์ที่แล้ว ที่ขอให้ UNIFIL เตรียมย้ายที่้ตั้งใหม่ออกห่างจากแนวชายแดนให้มากกว่า 5 กิโลเมตร "อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อความปลอดภัยของพวกคุณ"
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นทาง UNIFIL ส่งหนังสือตอบกลับไปยังอิสราเอล คัดค้านการประจำการยานยนต์ทางทหารหรือกำลังพลใดๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงกับฐานที่มั่นของกองกำลังสันติภาพสหประชาชาติในหลายครั้ง โดยระบุว่า "ความเคลื่อนไหวดังกล่าวก่ออันตรายต่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของบุคลากรและสถานที่ของ UNIFIL"
(ที่มา : รอยเตอร์)