รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - บริษัท Saab ของสวีเดนออกแถลงการณ์วันพฤหัสบดี (10 ต.ค.) ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ขอข้อมูลการซื้อเครื่องบินรบขับไล่กริพเพน จำนวน 36 ลำของบราซิลที่จัดซื้อเมื่อปี 2014 ท่ามกลางรายงานก่อนหน้ากองทัพไทยเล็งสั่งซื้อเครื่องบินรบกริพเพน 39 ลำ แทนเครื่องบินรบ F-16 ของสหรัฐฯ
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (10 ต.ค.) ว่า บริษัท Saab อเมริกาเหนือออกแถลงการณ์วันพฤหัสบดี (10) ว่า
“Saab ตั้งใจที่จะทำตามคำขอในการให้ข้อมูลและร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ DoJ ในเหตุนี้” รายงานจากแถลงการณ์บริษัท
รอยเตอร์ชี้ว่า เจ้าหน้าที่บราซิลและเจ้าหน้าที่สวีเดนก่อนหน้าในส่วนของกระบวนการจัดซื้อเครื่องบินรบขับไล่บราซิลซึ่งเกิดขึ้นระหว่างปี 2008-2014
บริษัทผู้ผลิตยุทโธปกรณ์ชื่อดังสัญชาติสวีเดนแถลงต่อว่า การสอบสวนเหล่านี้ปิดลงโดยไม่มีการบ่งชี้ถึงความผิดใดที่มาจาก Saab
ซึ่งในแถลงการณ์บนเว็บไซต์ทางการของบริษัท Saab อเมริกาเหนือระบุว่า ทางบริษัทได้รับหมายเรียกคำสั่งจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ DoJ ที่ได้เรียกข้อมูลเกี่ยวกับการสั่งซื้อจากรัฐบาลบราซิลถึงฝูงเครื่องบินรบกริพเพน E/F (Gripen E/F fighter aircraft) จำนวน 36 ลำสำหรับกองทัพอากาศของตัวเอง
ในแถลงการณ์ระบุว่า ข้อตกลงถูกลงนามในปี 2014
รายงานการขอข้อมูลจาก Saab นี้เกิดขึ้นหลังก่อนหน้า Saab ที่มีปรัชญาว่า เป็นสิทธิมนุษยชนที่จะรู้สึกปลอดภัย (It´s a human right to feel safe) บริษัท Saab ยืนยันตามการรายงานของรอยเตอร์เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ว่า กองทัพไทยได้ประกาศการตัดสินใจจะสั่งซื้อเครื่องบินรบกริพเพนจาก Saab
ถือเป็นการเปลี่ยนจากสหรัฐฯ และหันไปหายุโรปแทน และส่งผลดีต่อ Saab ที่เป็นยักษ์ใหญ่ระดับโลกด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ทางการทหาร
ทั้งนี้ สื่อ Army Recognition รายงานวันที่ 4 ต.ค.ว่า เปรูแถลงต้องการซื้อเครื่องบินรบขับไล่ 1 ฝูงจำนวน 24 ลำเข้าประจำการ และมี 4 รุ่นเสนอได้แก่ เครื่องบินรบขับไล่ฝรั่งเศส Rafale F4 เครื่องบินรบขับไล่สวีเดน Saab Gripen และเครื่องบินรบขับไล่สหรัฐฯ F-16V Block 70