หนังสือใหม่ที่กำลังจะวางแผงของนักข่าวรุ่นใหญ่ บ็อบ วูดเวิร์ด แฉโดนัลด์ ทรัมป์ คุยโทรศัพท์ส่วนตัวกับวลาดิมีร์ ปูติน ถึง 7 ครั้งหลังพ้นทำเนียบขาว แถมแอบส่งชุดตรวจโควิดไปให้ผู้นำรัสเซียในช่วงที่โรคนี้ระบาดหนักและอเมริกาเองขาดแคลนตัวช่วยสำคัญตัวนี้ ส่วนประธานาธิบดีโจ ไบเดนนั้น หัวเสียมากกับ เบนจามิน เนทันยาฮู และเห็นว่านายกรัฐมนตรีอิสราเอลผู้นี้โกหกเป็นประจำ
วูดเวิร์ด ซึ่งโด่งดังจากการร่วมทำข่าวขุดคุ้ยความไม่ชอบมาพากลในกรณี “วอเตอร์เกต” จนมีส่วนสำคัญทำให้ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ของสหรัฐฯต้องยอมลาออกจากตำแหน่งในปี 1974 แล้วจากนั้น วูดเวิร์ดก็เขียนหนังสือต่อเนื่องกันหลายเล่ม บันทึกเหตุการณ์เกี่ยวกับประธานาธิบดีสหรัฐฯคนต่างๆ ซึ่งดำรงตำแหน่งในช่วงเวลาตลอด 50 ปีที่ผ่านมา โดยเล่มใหม่ล่าสุดที่กำลังจะนำออกวางจำหน่าย ใช้ชื่อเรื่องว่า “วอร์” (War) และหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ซึ่งยังรักษาตำแหน่งรองบรรณาธิการให้เป็นเกียรติแก่ วูดเวิร์ด ได้ตัดทอนนำเอาบางส่วนของหนังสือนี้มาเผยแพร่เมื่อวันอังคาร (8 ต.ค.)
ส่วนหนึ่งของข้อความที่ตัดทอนจาก “วอร์” วูดเวิร์ดระบุว่า ทรัมป์ยังคงติดต่อกับปูตินเป็นการส่วนตัว โดยยกตัวอย่างเหตุการณ์เมื่อต้นปีนี้ ซึ่งทรัมป์ขอให้ผู้ช่วยคนหนึ่งออกจากห้องทำงานในรีสอร์ตส่วนตัว มาร์-อะ-ลาโก ของเขาที่ฟลอริดา เพื่อที่เขาจะได้คุยโทรศัพท์เป็นการส่วนตัวกับผู้นำรัสเซีย
ผู้ช่วยคนดังกล่าวเสริมว่า ทรัมป์คุยโทรศัพท์กับปูตินประมาณ 7 ครั้งนับจากพ้นตำแหน่ง
หนังสือเล่มล่าสุดของวูดเวิร์ดที่มีกำหนดวางแผงวันที่ 15 นี้ ยังเล่าว่า ทรัมป์ได้ส่งชุดตรวจโควิดไปให้ปูตินใช้เป็นการส่วนตัว ตอนที่ไวรัสร้ายนี้เริ่มระบาดในปี 2020 โดยประมุขทำเนียบเครมลินบอกทรัมป์ไม่ให้เปิดเผยเรื่องนี้เพราะจะทำให้คนอเมริกันไม่พอใจ แต่ทรัมป์ตอบกลับไปว่า ไม่สนใจว่าจะมีคนรู้หรือไม่ อย่างไรก็ดี สุดท้ายเขาตกลงไม่แพร่งพรายเรื่องนี้กับใคร
วูดเวิร์ด สรุปว่า การที่ทรัมป์ยังคงติดต่อกับปูติน ในช่วงที่รัสเซียกำลังทำสงครามกับยูเครน ซึ่งเป็นพันธมิตรของอเมริกา ทำให้เขาไม่เหมาะสมที่จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยิ่งกว่าอดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ซึ่งถูกเปิดโปงว่าใช้วิธีการสกปรกต่างๆ เพื่อป้ายสีนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม ในคดีวอเตอร์เกต เสียอีก
นักเขียนนักหนังสือพิมพ์ชื่อดังผู้นี้สำทับว่า ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีที่บุ่มบ่ามและวู่วามที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา และยังคงเป็นแบบนั้นระหว่างรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเพื่อเป็นประธานาธิบดีอีกวาระหนึ่งในขณะนี้
วันอังคาร (8) ระหว่างให้สัมภาษณ์รายการวิทยุของโฮเวิร์ด สเติร์น รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ที่เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประมุขทำเนียบขาวของพรรคเดโมแครต ได้ถือโอกาสย้ำข้อกล่าวหาทรัมป์ว่า ส่งชุดตรวจโควิดให้ผู้นำเผด็จการมือเปื้อนเลือดที่เป็นศัตรูของอเมริกา ในขณะที่คนอเมริกันเวลานั้นขาดแคลนชุดตรวจและล้มตายวันละหลายร้อยคน
ด้านทรัมป์ตอบโต้ระหว่างให้สัมภาษณ์กับโจนาธาน คาร์ล แห่งเอบีซีนิวส์ (ฝ่ายข่าวเครือข่ายโทรทัศน์เอบีซี) ว่า วูดเวิร์ดเป็นนักเล่าเรื่องที่แย่และเป็นบ้า
เมื่อปี 2021 ในตอนที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์เคยยอมให้วูดเวิร์ดสัมภาษณ์ เพื่อนำไปใช้ในการเขียนหนังสือบันทึกยุคสมัยประธานาธิบดีของทรัมป์ ซึ่ง วูดเวิร์ด ตั้งชื่อว่า “เรจ” (Rage) แต่ต่อมาทรัมป์กลับฟ้องร้องว่า ไม่ได้อนุญาตให้นักข่าวผู้นี้ นำเรื่องราวเหล่านั้นไปเผยแพร่ ซึ่งทั้งวูดเวิร์ดและสำนักพิมพ์ต่างปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
ในข้อความที่ตัดตอนเผยแพร่ทางวอชิงตันโพสต์ นอกจากเรื่องของทรัมป์แล้ว หนังสือใหม่ของวูดเวิร์ดยังกล่าวถึงความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างไบเดนกับนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูของอิสราเอล โดยเล่าว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หัวเสียและไม่ไว้ใจเนทันยาฮูนับแต่ฤดูใบไม้ผลิที่แล้ว และรู้สึกว่า ผู้นำยิว “โกหกเป็นประจำ” และขณะที่เนทันยาฮูพร่ำพูดว่า จะฆ่าสมาชิกฮามาสทุกคน ไบเดนได้แต่เตือนสติว่า เป็นไปไม่ได้ และขู่ทั้งเป็นการส่วนตัวและเปิดเผยว่า อเมริกาจะระงับการจัดส่งอาวุธให้อิสราเอล
หนังสือเล่มนี้ยังเล่าว่า เมื่อปลายปีที่แล้ว ไบเดนบอกกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง โดยวิพากษ์วิจารณ์อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ว่า ไม่ยอมทำอะไรเลยตอนที่ปูตินส่งกำลังบุกยึดแหลมไครเมียและดินแดนบางส่วนของภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อปี 2014 แล้วจากนั้นก็ประกาศผนวกไครเมียเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย โดยที่ในตอนนั้นไบเดนเองมีตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดี
วูดเวิร์ดสำทับว่า ไบเดนยังแสดงความโกรธกริ้วที่ เมอร์ริก การ์แลนด์ รัฐมนตรียุติธรรม แต่งตั้งที่ปรึกษากฎหมายพิเศษขึ้นมาทำหน้าที่สอบสวนคดีเลี่ยงภาษีและครอบครองปืนของฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตนเอง ถึงขั้นบ่นกับผู้ช่วยว่า ไม่น่าเลือกการ์แลนด์มานั่งเก้าอี้นี้เลย
ทั้งนี้ ฮันเตอร์ถูกศาลสหรัฐฯที่รัฐเดลาแวร์ตัดสินว่ามีความผิดในคดีอาวุธปืนเมื่อเดือนมิถุนายน และจะมีการกำหนดระวางโทษในเดือนธันวาคม นอกจากนั้น บุตรชายที่เหลืออยู่คนเดียวของไบเดนผู้นี้ ยังยอมสารภาพผิดในคดีเกี่ยวกับภาษีที่แคลิฟอร์เนีย ซึ่งจะมีการกำหนดโทษในเดือนธันวาคมเช่นเดียวกัน
(ที่มา: เอพี/เอเอฟพี)