เอเจนซีส์ - คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน NDRC ออกแถลงวันอังคาร (8 ต.ค.) ถึงร่างปฎิบัติเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจีนแต่ทว่าสร้างความผิดหวังให้บรรดานักลงทุนหลังไม่เห็นแพกเกจกระตุ้นครั้งใหญ่ เกิดขึ้น หลังเดือนที่แล้วบรรดาผู้นำจีนออกมาส่งสัญญาณถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการเผชิญหน้าภาวะเศรษฐกิจขาลงของจีนที่ยาวนานและเจ็บปวด สร้างความสงสัยว่าจีนจะสามารถไปถึงเป้าหมายการเติบโตประจำปีที่ 5% ได้หรือไม่
CNBC News รายงานวันอังคาร (8 ต.ค.) ว่า เจิ้ง ซานเจี๋ย (Zheng Shanjie) ประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน NDRC (National Development and Reform Commission) ในการแถลงข่าวที่หลายฝ่ายต่างเฝ้ารอมานานวันอังคาร (8) ประกาศร่างมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจีน
แต่อย่างไรก็ตาม เจิ้งกลับไม่กล่าวถึงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจใหญ่ครั้งใหม่ใดๆ ออกมา สร้างความผิดหวังให้บรรดานักลงทุน และทำให้การรณรงค์ในตลาดแดนมังกรอ่อนลง
เจ้าหน้าที่อาวุโส NDRC ประกาศว่าจีนจะเร่งการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อจุดประสงค์พิเศษให้แก่รัฐบาลระดับท้องถิ่นภายในประเทศสำหรับการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในท้องถิ่น
เจิ้งกล่าวว่า พันธบัตรรัฐบาลนานพิเศษจำนวน 1 ล้านล้านหยวนได้ออกมาใช้เพื่อให้การช่วยเหลือทางการเงินแก่โปรเจกต์ท้องถิ่น และเขาประกาศว่าจีนยังคงออกพันธบัตรพิเศษประเภทนี้ต่อในปีหน้า
เจ้าหน้าที่อาวุโสจีนเสริมว่า รัฐบาลกลางจีนจะออกแผนการลงทุนมูลค่า 100 พันล้านหยวนสำหรับปี 2025 ภายในสิ้นเดือนนี้ซึ่งเป็นการก่อนหน้ากำหนดเดิม เจ้าหน้าที่อาวุโสจีนเสริม
เป็นการออกมาแถลงหลังตลาดต่างๆ ในจีนแผ่นดินใหญ่กลับมาเปิดหลังจากช่วงเทศกาลหยุดยาว Golden Week ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. การรณรงค์ในตลาดจีนนั้นลดความร้อนแรงลงจากการที่บรรดาผู้ทำนโยบายเลือกที่จะไม่ออกมาตรการกระตุ้นใหญ่ออกมา
ในงานแถลงข่าววันอังคาร (8) เจิ้งกล่าวว่า จีนเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ในการที่จะสามารถบรรลุเป้าหมายตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของปีนี้ และในเวลาเดียวกันเขาได้ปวารณามาตรการบางส่วนเพื่อสนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์และกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ
ประธาน NDRC ยังแสดงการรับรู้ว่ายังคงมีความยุ่งยากมากมายและปัญหาในกระบวนการที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการที่จะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ อ้างอิงจากการแปลของ CNBC ในคำแถลงของในภาษาจีนกลางของเขา
จีนซึ่งถือว่ามีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกแต่ทว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ช้าลงหลังการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังจากการล็อกดาวน์โควิด-19 ที่ยาวนาน ที่คาดว่าน่าจะมาจากความต้องการภายในที่ไม่มีชีวิตชีวา และภาวะขาลงที่ยืดเยื้อของภาคอสังหาริมทรัพย์