กองทัพยูเครนออกมาแถลงยอมรับเมื่อวานนี้ (7 ต.ค.) ว่าทหารรัสเซียกำลังรุกคืบเข้าไปถึงชานเมืองโตเรตสก์ (Toretsk) ทางตะวันออกของยูเครนแล้ว หลังประสบความสำเร็จในการยึดเมืองยุทธศาสตร์วูห์เลดาร์ (Vuhledar) ไปได้เมื่อไม่ถึง 1 สัปดาห์ก่อน
“สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่นิ่ง มีการสู้รบเกิดขึ้นที่ทางเข้าเมืองทุกจุด” อนาสตาเซีย โบบอฟนิโควา โฆษกกลุ่มปฏิบัติการเชิงยุทธวิธี “ลูฮันสก์” ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์แห่งชาติยูเครน
“ทหารรัสเซียเข้าไปถึงชานเมืองฝั่งตะวันออกได้แล้ว” เธอกล่าว
กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังไม่ออกมาให้ข้อมูลในส่วนนี้ แต่มีการแถลงเมื่อวันจันทร์ (7) ว่า ปฏิบัติการของกองทัพหมีขาวได้สร้างความเสียหายต่อกำลังพลและเครื่องไม้เครื่องมือของฝ่ายยูเครนใกล้กับที่ตั้งชุมชนหลายแห่งในพื้นที่ รวมถึงใกล้ๆ เมืองโตเรตสก์ด้วย
ขณะเดียวกัน เหล่าบล็อกเกอร์ด้านการทหารในรัสเซีย รวมถึงกลุ่มนักวิเคราะห์ด้านการทหารที่ดูแลบัญชีเทเลแกรม Rybar ได้ให้ข้อมูลว่า เวลานี้ทหารรัสเซียกำลังยาตราทัพเข้าสู่ย่านในกลางเมืองโตเรตสก์แล้ว
การรุกคืบของกองทัพรัสเซียเหมือนเช่นที่สามารถยึดเมืองวูห์เลดาร์ได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของมอสโกที่เหนือชั้นกว่ายูเครนทั้งในแง่ของกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ ในขณะที่รัฐบาลเคียฟยังคงรบเร้าขอให้พันธมิตรตะวันตกช่วยส่งอาวุธที่ทันสมัยไปช่วยเหลือเพิ่มเติม
รัสเซียซึ่งขณะนี้ควบคุมดินแดนยูเครนราว 1 ใน 5 ได้เริ่มเคลื่อนพลไปสู่เมืองโตเรตสก์ตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค. โดยทหารราบหมีขาวซึ่งมีระเบิดนำวิถี (guided bombs) อานุภาพทำลายล้างสูงคอยสนับสนุนได้ทยอยยึดหมู่บ้านเพิ่มขึ้นทีละแห่งๆ ไปตลอดเส้นทาง
ในขณะที่ยูเครนมีแนวโน้มว่าจะต้องเสียดินแดนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ได้สั่งการให้พวกผู้บัญชาการกองทัพ “ทำทุกวิถีทาง” เพื่อสกัดการรุกคืบของมอสโกในพื้นที่แนวหน้า
โตเรตสก์ได้กลายเป็นเมืองด่านหน้า (frontline city) มานานถึง 10 ปี เนื่องจากอยู่ติดกับพื้นที่ที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนโปรรัสเซียยึดครองไว้ตั้งแต่ช่วงปี 2014 และถือเป็นหนึ่งในเมืองป้อมปราการที่สำคัญของยูเครนด้วย
ในช่วงก่อนปี 2016 เมืองแห่งนี้เคยมีชื่อเก่าที่เรียกกันมาตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียตว่า เซอร์ซินสก์ (Dzerzhinsk) และการยึดครองเมืองนี้ได้ก็จะช่วยให้ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเข้าใกล้เป้าหมายในการยึดภูมิภาคดอนบาสทั้งหมดของยูเครนมากขึ้น
ด้านนักวิเคราะห์ทางการทหารของยูเครนชี้ว่า การสูญเสียเมืองโตเรตสก์ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเนินจะเอื้อให้รัสเซียสามารถตัดขาดเส้นทางลำเลียงสำคัญที่เชื่อมกองกำลังปฏิบัติการส่วนหลังของเคียฟกับพื้นที่สู้รบแนวหน้า ซึ่งรวมถึงถนนสายหลัก Pokrovsk-Kostyantynivka
หลังประสบความล้มเหลวในความพยายามยึดกรุงเคียฟในช่วงเริ่มต้นของสงครามเมื่อเดือน ก.พ. ปี 2022 ปูติน ได้หันมาโฟกัสที่การยึด “ดอนบาส” ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมเก่าทางภาคตะวันออกของยูเครนที่ประกอบด้วย 2 แคว้น ได้แก่ ลูฮันสก์ และโดเนตสก์
นับแต่นั้นมา ภูมิภาคดอนบาสได้กลายเป็นยุทธบริเวณสำคัญ และเป็นจุดที่มีการสู้รบนองเลือดมากที่สุดของยุโรปในช่วงหลายชั่วอายุคน
ที่มา : รอยเตอร์