ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ในวันอาทิตย์ (6 ต.ค.) เน้นย้ำถึง "พันธสัญญาที่ไม่เปลี่ยนแปลง" ต่อความมั่นคงของอิสราเอล ระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู พร้อมยืนกรานเสียงเรียกร้องข้อตกลงหยุดยิงในกาซาและเลบานอน
"ก่อนหน้าวาระครบรอบ 1 ปีที่พวกก่อการร้ายฮามาสรุกรานอิสราเอล ท่านแสดงออกถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของประชาชนชาวฝรั่งเศสกับประชาชนชาวอิสราเอล" ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสกล่าว พร้อมระบุนอกจากนี้แล้ว มาครงยังส่งเสียงร้องว่าเวลานี้ถึงเวลาแล้วสำหรับข้อตกลงหยุดยิง
ผู้นำทั้ง 2 คนพูดคุยกันทางโทรศัพท์ หนึ่งวันก่อนถึงวาระครบรอบ 1 ปีเหตุโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม และมันมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากทั้ง 2 ฝ่ายโต้เถียงอย่างเผ็ดร้อน ตามหลัง มาครง แสดงความคิดเห็นเรียกร้องระงับส่งมอบอาวุธแก่อิสราเอล ที่อาจถูกนำไปใช้ในสงครามในกาซา
ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสระบุว่า "พวกเขาหารือกันเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง และทุกอย่างเป็นการพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาและให้ความเคารพมิตรภาพระหว่างฝรั่งเศสกับอิสราเอล ผู้นำทั้ง 2 ยอมรับความเห็นต่าง เช่นเดียวกับแสดงถึงความปรารถนายืนหยัดเคียงข้างกันและกัน"
"มาครงเน้นย้ำกับเนทันยาฮู ว่าพันธสัญญาของฝรั่งเศสที่มีต่อความมั่นคงของอิสราเอลยังคงไม่เปลี่ยนแปลงและย้อนความทรงจำของเขา ต่อกรณีที่กองทัพฝรั่งเศสระดมทรัพยากรในการป้องกันอิสราเอล ระหว่างถูกโจมตีโดยอิหร่านในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา" ถ้อยแถลงระบุ
มาครง ก่อความโกรธเคืองแก่ เนทันยาฮู เมื่อวันเสาร์ (5 ต.ค.) หลังบอกว่า "สิ่งที่เราให้ความสำคัญลำดับต้นๆ คือการหวนคืนสู่ทางออกทางการเมือง และเราขอเรียกร้องให้หยุดป้อนอาวุธสำหรับสู้รบในกาซา" พร้อมระบุอย่างเจาะจงว่า ฝรั่งเศส ไม่ได้มอบอาวุธใดๆ แก่อิสราเอล
อิสราเอลกำลังสู้รบในหลายแนวหน้า ในการทำสงครามกับฮามาสในกาซา และฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ประเทศที่พวกเขาเปิดปฏิบัติการทางภาคพื้นมาตั้งแต่วันจันทร์ที่แล้ว (30 ก.ย.)
ขณะเดียวกัน พวกเขายังขู่แก้แค้นอิหร่าน กรณีที่ถูกอิหร่านยิงห่าขีปนาวุธเข้าใส่เมื่อวันอังคารที่แล้ว (1 ต.ค.)
(ที่มา : เอเอฟพี)