สายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สั่งห้ามไม่ให้พกพาเพจเจอร์และวิทยุสื่อสาร "walkie-talkies" ขึ้นเครื่องบิน ตามหลังเหตุโจมตีด้วยอุปกรณ์ดังกล่าวเมื่อเดือนที่แล้ว ที่เล็งเป้าเล่นงานพวกนักรบฮิซบอลเลาะห์ กลุ่มติดอาวุธในเลบานอน ซึ่งกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล
"ผู้โดยสารทุกท่านที่เดินทางบนเที่ยวบินทั้งขาเข้า ขาออกหรือผ่านดูไบ ห้ามพกพาเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารแบบพกพาในกระเป๋าสัมภาระหรือกระเป๋าถือ" สายการบินเขียนในถ้อยแถลงที่โพสต์บนเว็บไซต์เมื่อวันศุกร์ (4 ต.ค.) "หากพบอุปกรณ์ดังกล่าวในกระเป๋าถือหรือกระเป๋าสัมภาระที่ต้องโหลดไว้ใต้ท้องเครื่อง พวกมันจะถูกริบโดยตำรวจดูไบ"
คำสั่งนี้มีขึ้นไม่กี่สัปดาห์ หลังจากเกิดเหตุเพจเจอร์ระเบิดพร้อมๆ กันทั่วเลบานอน จากนั้นก็ตามมาด้วยวิทยุสื่อสาร walkie-talkies ระเบิดเป็นชุดๆ แบบเดียวกัน ในเหตุการณ์ที่พวกเจ้าหน้าที่เลบานอนกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล
มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 37 ราย ในนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วยหลายคน ในเหตุโจมตีทั้ง 2 ระลอก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเกือบ 3,000 คน
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของเลบานอนบอกกับซีเอ็นเอ็น ว่า วัตถุระเบิดถูกฝังอยู่ภายในแบตเตอรี่ลิเธียมของเพจเจอร์ และมันเป็นการซุกซ่อนในรูปแบบที่ล้ำสมัยที่แทบจะไม่สามารถตรวจจับได้ ท่ามกลางความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในตะวันออกกลาง เที่ยวบินต่างๆ ต้องเผชิญกับสถานการณ์ความวุ่นวายมากขึ้นเช่นกัน
ในข้อมูลอัปเดตล่าสุดเมื่อวันศุกร์ (4 ต.ค.) เอมิเรตส์ ซึ่งเป็นสายการบินใหญ่ที่สุดของภูมิภาค เปิดเผยว่ายังจำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบินต่างๆ ทั้งขาเข้าและขาออกไปกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน จนไปถึงอย่างน้อยวันที่ 15 ตุลาคม
สายการบินเอมิเรตส์เผยด้วยว่าพวกเขาจะกลับมาให้บริการเที่ยวบินมุ่งหน้าสู่กรุงอัมมาน เมืองหลวงของจอร์แดน ในวันอาทิตย์ (6 ต.ค.) ขณะที่เที่ยวบินขาเข้าและออกจากอิรักและอิหร่านจะยังคงถูกยกเลิกไปจนถึงวันจันทร์ (7 ต.ค.)
นอกจากเอมิเรตส์แล้ว สายการบินอื่นๆ ก็ได้มีการยกเลิกเที่ยวบินสู่กรุงเบรุต และสนามบินอื่นๆ ในภูมิภาคเช่นกัน
(ที่มา : ซีเอ็นเอ็น/เอเจนซี)