เดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักรในวันเสาร์ (5 ต.ค.) ระบุรายงานข่าวที่ว่า อิสราเอลโจมตีที่ตั้งทางการแพทย์และบุคลากรสนับสนุนในเลบานอน เป็นสิ่งที่น่ากระวนกระวายใจอย่างยิ่ง พร้อมเรียกร้องให้เคารพกฎหมายมนุษยธรรมสากล
"ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามกฎหมายมุษยธรรมระหว่างประเทศ" แลมมีกล่าว พร้อมระบุในถ้อยแถลงที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ หลังมีโรงพยาบาลอย่างน้อย 4 แห่งในเลบานอนที่แถลงระงับปฏิบัติการ และทางข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เตือนเกี่ยวกับกรณีการโจมตีโดนสถานพยาบาลต่างๆ แม้ทางอิสราเอลอ้างว่าพวกเขาเล็งเป้าโจมตีเป้าหมายต่างๆ ของพวกฮิซบอลเลาะห์
แลมมี กล่าวด้วยว่าไม่มีใครอยากหวนกลับสู่อดีต ครั้งที่อิสราเอลสู้รบในทางใต้ของเลบานอนเป็นเวลานาน และสิ่งที่ต้องชดใช้ในสงครามระดับภูมิภาคในตะวันออกกลางนั้น จะมีราคาแพงมาก "ในบรรดาพวกเรา ไม่มีใครต้องการกลับสู่หลายขวบปีที่อิสราเอลพบว่าตนเองจมอยู่ในหล่มทางใต้ของเลบานอน"
"ไม่มีใครต้องการเห็นสงครามระดับภูมิภาค ตะวันออกกลางจะต้องชดใช้ราคาแพงอย่างมหาศาล และมันจะก่อผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก" เขากล่าว
รายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุโจมตีโรงพยาบาลในเลบานอน มีขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับที่แหล่งข่าวระดับสูงของฮิซบอลเลาะห์ เปิดเผยในวันเสาร์ (5 ต.ค.) ว่าได้ขาดการติดต่อกับ ฮาเชม ซาเฟดดิน ผู้ซึ่งถูกมองออย่างกว้างขวางว่าจะก้าวมาเป็นผู้นำคนใหม่ของกลุ่ม ตามหลังปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอลในสัปดาห์นี้
ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ตอบโต้รายงานข่าวของเอเอฟพี ทางกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ระบุว่า "ไม่มีแหล่งข่าวฮิซบอลเลาะห์รายใด และมุมมองของเราจะมีการเผยแพร่อยู่ในถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการเท่านั้น" อย่างไรก็ตามถ้อยแถลงของฮิซบอลเลาะห์ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธเกี่ยวกับข่าวการขาดการติดต่อกับซาเฟดดิน
"การติดต่อกับฮาเซม ซาเฟดดิน ขาดหายไปตั้งแต่ปฏิบัติการโจมตีรุนแรงถล่มชายเมืองทางใต้ของกรุงเบรุตในตอนเช้าวันศุกร์ (4 ต.ค.) เจ้าหน้าที่บอกกับเอเอฟพี "เราไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่สถานที่ที่เป็นเป้าหมายหรือไม่ หรือมีใครบ้างที่อยู่กับเขา"
เอเอฟพีรายงานว่าแหล่งข่าวใกล้ชิดกับฮิซบอลเลาะห์อีกคน ยืนยันเช่นกันว่าขาดการติดต่อกับ ซาเฟดดิน และไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน "ฮิซบอลเลาะห์กำลังพยายามเข้าถึงกองบัญชาการใต้ดินที่ตกเป็นเป้าหมาย แต่ทุกๆ ครั้งที่อิสราเอลเริ่มโจมตีรอบใหม่ มันเป็นอุปสรรคต่อความพยายามกู้ภัย"
"ซาเฟดดิน อยู่กับหัวหน้าข่าวกรองของฮิซบอลเลาะห์ ที่มีชื่อวา อัจจ์ มูร์ตาดา ตอนที่เหตุโจมตีเกิดขึ้น" แหล่งข่าวระบุ
ในตอนเช้าวันศุกร์ (4 ต.ค.) แหล่งข่าวใกล้ชิดกับฮิซบอลเลาะห์ ระบุว่าอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ 11 เที่ยวซ้อน ถล่มป้อมปราการของพวกฮิซบอลเลาะห์ในทางใต้ของเบรุต ถือเป็นหนึ่งในปฏิบัติการจู่โจมครั้งหนักหน่วงที่สุด นับตั้งแต่อิสราเอลยกระดับยุทธการทิ้งบอมบ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
กองทัพอิราเอลเผยว่าเป้าหมายต่างๆ ที่พวกเขาโจมตีนั้น เป็นของกองบัญชาการข่าวกรองของฮิซบอลเลาะห์ในเบรุต
ปฏิบัติการโจมตีเป็นชุดๆ มีขึ้นราว 1 สัปดาห์ หลังจากกองทัพอิสราเอลเผยว่าสามารถปลิดชีพ นัสซัน ฮัสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ ในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเล่นงานกองบัญชาการทางกลุ่มทางใต้ของกรุงเบรุต
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)