อิหร่านส่งสารผ่านคนกลางไปยังสหรัฐฯ ว่าการโจมตีแก้แค้นใดๆ ของอิสราเอลที่เล็งเป้าเล่นงานอิหร่าน จะต้องเจอกับการตอบโต้อย่างไม่ธรรมดา ในนั้นรวมถึงการล็อกเป้าถล่มโครงการพื้นฐานของอิสราเอล
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัลจาซีราห์ เจ้าหน้าที่อิหร่านรายหนึ่งเปิดเผยในวันพฤหัสบดี (3 ต.ค.) ว่าประเทศของเขาได้ส่งสารไปยังสหรัฐฯ ผ่านคนกลางอย่างกาตาร์ ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดที่ลุกลามขึ้นในภูมิภาค หลังจากอิหร่านยิงห่าขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอล
ในสารดังกล่าว เตหะรานบอกกับวอชิงตันว่า "ช่วงเวลาแห่งการอดทนอดกลั้นแต่เพียงฝ่ายเดียวนั้นจบลงแล้ว" พร้อมระบุ "การอดทนอดกลั้นแต่เพียงฝ่ายเดียว ไม่อาจรับประกันความจำเป็นด้านความมั่นคงแห่งชาติของเรา"
สารทางอ้อมนี้ยังเน้นย้ำด้วยว่าอิหร่านไม่ต้องการสงครามระดับภูมิภาค เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุ
ก่อนหน้านี้ในวันพุธ (2 ต.ค.) อิสราเอลประกาศตอบโต้ หลังจากกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน ยิงขีปนาวุธ 2 ระลอกโจมตีเป้าหมายทางทหารและเป้าหมายด้านความมั่นคงในอิสราเอล
อิหร่านระบุว่า การยิงถล่มด้วยขีปนาวุธในวันอังคาร (2 ต.ค.) เป็นการตอบโต้อิสราเอลที่โจมตีฉนวนกาซาและเลบานอน รวมถึงสังหารเจ้าหน้าที่สำคัญของฮิซบอลเลาะห์และพวกนักรบปาเลสไตน์ฮามาส พันธมิตรของพวกเขา
กองทัพอิสราเอลอ้างว่าขีปนาวุธราว 200 ลูกที่อิหร่านรัวยิงออกมาไม่ได้ก่อความสูญเสียใดๆ เนื่องจากขีปนาวุธส่วนใหญ่ถูกสกัดไว้ได้ ขณะที่สหรัฐฯ เน้นย้ำคำสัญญาว่าพวกเขาให้การหนุนหลังพันธมิตรอิสราเอลอย่างแข็งขัน
คิมเบอร์ลี ฮัลเคทท์ ผู้สื่อข่าวอัลจาซีราห์ รายงานจากวอชิงตัน ระบุว่า สารที่อิหร่านส่งผ่านคนกลางไปยังสหรัฐฯ ดูเหมือนเป็นการตอบสนองต่อความเห็นของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งอเมริกา ที่กล่าวในวันพุธ (2 ต.ค.) ว่าอิสราเอลมีสิทธิตอบโต้เหตุโจมตีด้วยขีปนาวุธ
"ไบเดนบอกว่าอิสราเอลมีสิทธิแก้แค้นการโจมตีเมื่อเร็วๆ นี้ของอิหร่าน ต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน ครั้งที่อิหร่านยิงใส่อิสราเอลเช่นกัน โดยหนนั้นทำเนียบขาวปรามอิสราเอลไม่ให้ตอบโต้" ฮัลเคทท์ กล่าว
ฮัลเคทท์ สันนิษฐานว่าสารของอิหร่านสามารถตีความได้ 2 อย่าง "มันอาจหมายความว่า เราไม่อยากให้คุณทำอะไร เรากำลังพยายามยับยั้งมัน หรือมันอาจเป็นคำเตือนว่า ถ้าคุณลงมือ การตอบโต้ของเราจะหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม"
เจ้าหน้าที่อิหร่านเปิดเผยกับอัลจาซีราห์ ว่าในสารที่ส่งถึงสหรัฐฯ ทางอิหร่านได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องยับยั้งอิสราเอลและสกัดความบ้าคลั่งที่ควบคุมไม่ได้ในภูมิภาค
ในสัปดาห์นี้ อิสราเอลส่งกองกำลังทางภาคพื้นบุกเข้าไปยังทางใต้ของเลบานอน ในสิ่งที่พวกเขาให้คำนิยามว่าเป็นการรุกรานแบบจำกัด และเดินหน้าถล่มประเทศแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง ในนั้นรวมถึงกรุงเบรุต เป็นเวลามาเกือบ 2 สัปดาห์ จนถึงตอนนี้สถานการณ์ความขัดแย้งได้สังหารผู้คนไปแล้วมากกว่า 1,000 ราย และต้องไร้ถิ่นฐานอีกมากกว่า 1 ล้านคน จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่เลบานอน
นอกจากเลบานอนแล้ว อิสราเอลยังคงเดินหน้าจู่โจมนองเลือดเล่นงานกาซา ในสงครามกับพวกนักรบฮามาสที่ลากยาวมานานเกือบ 1 ปี
พลเมืองราว 90% ของฉนวนแห่งนี้ที่ต้องพลัดถิ่นฐาน และกองกำลังอิสราเอลถูกกล่าวหาซ้ำเติมวิกฤตด้านมนุษยธรรมและความหิวโหยที่เลวร้ายอยู่ก่อนแล้ว ด้วยการพยายามขัดขวางเสบียงความช่วยเหลือต่างๆ
มีประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คนที่เสียชีวิตในปฏิบัติการจู่โจมของอิสราเอล ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ขณะที่อิสราเอลอ้างว่าพวกเขาเล็งเป้าเล่นงานโครงสร้างพื้นฐานและเป้าหมายต่างๆ ของพวกฮามาสในยุทธการดังกล่าว
ด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่อิหร่านชี้ว่าอิสราเอลจำเป็นต้องถูกป้องปรามในทางปฏิบัติ
(ที่มา : อัลจาซีราห์)