ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยว่ากำลังหารือถึงความเป็นไปได้ที่อิสราเอลจะโจมตีแก้แค้นใส่ที่ตั้งทางพลังงานของอิหร่าน ในความเห็นที่ส่งให้ราคาน้ำมันพุ่งทะยานในวันพฤหัสบดี (3 ต.ค.) ราว 1 เดือน ก่อนถึงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา
อย่างไรก็ตาม ไบเดน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ไม่คาดหมายว่าอิสราเอลจะเปิดฉากโจมตีอิหร่านก่อนวันพฤหัสบดี (3 ต.ค.) เป็นอย่างน้อย ในปฏิบัติการแก้แค้นกรณีที่เตหะรานยิงห่าขีปนาวุธเข้าใส่พวกเขาเมื่อช่วงต้นสัปดาห์
เมื่อถูกถามในวันพฤหัสบดี (3 ต.ค.) ว่าเขาจะสนับสนุนให้อิสราเอลโจมตีที่ตั้งน้ำมันของอิหร่านหรือไม่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า "เรากำลังหารือในเรื่องดังกล่าว ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นในวันนี้"
คำพูดนี้กระตุ้นให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 5% ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ลุกลามบานปลายในตะวันออกกลาง
การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันอาจก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่ กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีของไบเดนเอง ในฐานะตัวแทนจากพรรคเดโมแครต สู้ศึกชิงเก้าอี้ทำเนียบขาวกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากรีพับลิกัน ในวันที่ 5 พฤศจิกายน เนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับค่าครองชีพเป็นหนึ่งในประเด็นหลักของศึกเลือกตั้งครั้งนี้
ไบเดน ไม่คาดว่าอิสราเอลจะเริ่มดำเนินการใดๆ ในทันที แม้เมื่อเร็วๆ นี้ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลแทบไม่ให้ความใส่ใจใดๆ ต่อเสียงเรียกร้องให้อดทนอดกลั้น ในขณะที่เขาเล็งเป้าเล่นงานพวกติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ พันธมิตรของอิหร่านในเลบานอน
"สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราไม่ได้ให้ไฟเขียวอิสราเอล เราแค่ให้คำแนะนำอิสราเอล และไม่มีอะไรเกิดขึ้นในวันนี้" ไบเดน บอกกับผู้สื่อข่าว หลังจากก่อนหน้านี้ในวันพุธ (2 ต.ค.) ผู้นำสหรัฐฯ รายนี้เน้นย้ำว่าเขาจะไม่สนับสนุนให้อิสราเอลโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน
อิหร่านรัวยิงขีปนาวุธราว 200 ลูก ในการโจมตีด้วยขีปนาวุธโดยตรงเล่นงานอิสราเอลเมื่อวันอังคาร (1 ต.ค.) กระตุ้นให้ เนทันยาฮู ส่งเสียงเตือนว่าเตหะรานจะต้องชดใช้ราคาแพง
ทั้งนี้ อิหร่านระบุว่าปฏิบัติการโจมตีดังกล่าว เป็นการแก้แค้นเหตุสังหาร ฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์
ฮิซบอลเลาะห์ เปิดศึกยิงปะทะกับอิสราเอล ไม่นานหลังจากพวกนักรบปาเลสไตน์ "ฮามาส" พันธมิตรของพวกเขาบุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 สังหารผู้คนไปราว 1,200 รายและจับตัวประกันไปประมาณ 250 คน
นับตั้งแต่นั้นอิสราเอลได้เปิดปฏิบัติการแก้แค้น ทิ้งบอมบ์ถล่มทางอากาศและตามด้วยการรุกรานทางภาคพื้น สังหารผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 41,689 ราย และบาดเจ็บ 96,625 คน
(ที่มา : เอเอฟพี)