อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติในวันพุธ (2 ต.ค.) อยู่เฉยไม่ไหว ออกมาเรียกร้องให้หยุด "วัฏจักรอันน่าสะอิดสะเอียด" ของสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายในตะวันออกกลาง พร้อมประณามอิหร่านต่อกรณีที่ยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล หลังจากถูกวิจารณ์อย่างดุเดือดจากรัฐยิว ที่ถึงขั้นประกาศให้เป็น "บุคคลไม่ถึงปรารถนา"
คำกล่าวของเลขาธิการใหญ่มีขึ้น ณ ที่ประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งจัดขึ้นตามหลัง อิหร่าน ยิงห่าขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่เมื่อวันอังคาร (1 ต.ค.) ในขณะที่อิสราเอลก็ยกระดับปฏิบัติการรุกรานเลบานอน เล่นงานพวกนักรบฮิซบอลเลาะห์เช่นกัน
"มันถึงเวลาแล้วที่ต้องหยุดวัฏจักรอันน่าสะอิดสะเอียนของสถานการณ์ที่ลุกลามบานหลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ที่กำลังนำพาผู้คนในตะวันออกกลางมุ่งหน้าสู่ขอบเหว" เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติระบุ "วัฏจักรนองเลือดของความรุนแรงตาต่อตาฟันต่อฟันนี้ต้องหยุดลง"
อิสราเอลประกาศตอบโต้การโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิหร่าน ซึ่งท่าทีดังกล่าวโหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับสงครามในวงกว้างทั่วภูมิภาคและลุกลามบานปลาย กระตุ้นให้พวกผู้แทนทางการทูตเร่งรีบหาทางผ่อนคลายสถานการณ์ความตึงเครียด
ในทางกลับกัน อิหร่านเตือนว่าจะเปิดฉากการโจมตีครั้งใหญ่กว่านี้ หากว่าอิสราเอลทำตามที่ประกาศออกมา
เมื่อเดือนที่แล้ว อิสราเอลเบี่ยงโฟกัสจากสงครามในกาซา ซึ่งโหมกระพือขึ้นจากการที่พวกนักรบฮามาสที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน บุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอล ไปที่การคุ้มกันชายแดนทางเหนือติดกับเลบานอน
ในขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกำลังประชุมกัน กองกำลังอิสราเอลกำลังสู้รบกับพวกนักรบฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน หลังจากบุกจู่โจมข้ามชายแดนเล่นงานเป้าหมายทางภาคพื้นเมื่อวันอังคาร (8 ต.ค.)
มีผู้คนมากกว่า 1,000 ราย เสียชีวิตนับตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ในเหตุสู้รบระหว่าง 2 ฝ่าย ในนั้นรวมถึงปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเล่นงานกรุงเบรุตและแถบชานเมืองทางใต้
แดนนี ดานอน เอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำสหประชาชาติ เน้นย้ำว่าประเทศของเขามีแผนแก้แค้นการโจมตีของอิหร่าน บอกว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาในอิสราเอล ไม่ใช่การป้องกันตนเอง แต่เป็นการโจมตีที่คำนวณไว้แล้ว"
คำพูดดังกล่าวกระตุ้นให้ทาง อามีร์ ซาอิด ไอราวานี เอกอัครราชทูตอิหร่าน ประจำสหประชาชาติ บอกว่า "การตอบโต้ของอิหร่านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อกอบกู้ความสมดุลและเป็นการป้องปราม"
สหรัฐฯ บอกว่าพวกเขาสนับสนุนปฏิบัติการแก้แค้นของอิสราเอลในการตอบโต้อิหร่าน แต่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุในวันพุธ (2 ต.ค.) ว่าเขาไม่สนับสนุนการโจมตีใดๆ ของอิสราเอลที่เล็งเป้ากำจัดที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ก่อนหน้านี้ในวันพุธ (2 ต.ค.) อิสราเอลประกาศให้ กูเตอร์เรส "เป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา" ฐานไม่ยอมประณามอย่างเจาะจงต่อการโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิหร่าน หลังจากในวันอังคาร (1 ต.ค.) ทาง กูเตอร์เรส เพียงแค่ประณามความขัดแย้งที่กำลังลุกลามขึ้นเรื่อยๆ ในตะวันออกกลาง
"ใครก็ตามที่ไม่อาจประณามอย่างชัดเจนต่อการโจมตีอันชั่วร้ายของอิหร่านเล่นงานอิสราเอล คนคนนั้นก็ไม่คู่ควรก้าวเท้าเข้าสู่แผ่นดินอิสราเอล" อิสราเอล คาทซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลระบุในถ้อยแถลง อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ไม่เห็นด้วยกับความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของอิสราเอล โดยทาง แมตธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศบอกว่า "มันเป็นก้าวย่างที่ไม่สร้างสรรค์"
ในวันพุธ (2 ต.ค.) กูเตอร์เรส กล่าวกับพวกผู้แทนทูต ณ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ บอกว่า "แน่นอนว่า คำกล่าวของผมที่แสดงออกเมื่อวานนี้ มันเป็นบริบทของการประณาม และผมขอประณามอย่างรุนแรงอีกครั้ง ต่อเหตุโจมตีด้วยขีปนาวุธครั้งใหญ่ของอิหร่าน ที่ยิงเข้าใส่อิสราเอล"
นอกจากนี้ เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ยังเน้นย้ำเสียงเรียกร้องของเขาเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง "นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว อิสราเอลปฏิบัติการในกาซา ในยุทธการทางทหารนองเลือดและทำลายล้างรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ที่ผมดำรงตำแห่งเลขาธิการใหญ่"
"ในเวลาเดียวกันนั้น พวกกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ก็ใช้ความรุนแรงเช่นกัน ฮามาสยังคงยิงจรวดอย่างต่อเนื่อง" เขากล่าว พร้อมระบุการที่อิหร่านโจมตีอิสราเอลด้วยขีปนาวุธ "ไม่ใช่การสนับสนุนเหตุผลของประชาชนชาวปาเลสไตน์หรือลดความทุกข์ทรมานของพวกเขา"
(ที่มา : เอเอฟพี)