โหดจนรับไม่ได้! โป๊ปฟรานซิสวิจารณ์ 'อิสราเอล' โจมตีทางทหารแบบ 'ไม่คำนึงถึงศีลธรรม'

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงมีพระดำรัสวานนี้ (29 ก.ย.) ว่า "ไม่เห็นด้วย" กับปฏิบัติการทางทหารที่ "ไม่คำนึงถึงศีลธรรม" หลังถูกสื่อตั้งคำถามเกี่ยวกับการที่อิสราเอลใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อเลบานอนอย่างหนักหน่วง จนกระทั่งสามารถปลิดชีพผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้

ระหว่างประทับเครื่องบินจากเบลเยียมเสด็จฯ กลับไปยังกรุงโรม โป๊ปตรัสว่าประเทศใดๆ ก็ตามไม่สมควรที่จะใช้กำลังทหาร "เกินกว่าเหตุ"

"แม้แต่ในสงครามก็ควรจะต้องมีศีลธรรมเป็นเครื่องป้องกัน" โป๊ปตรัส "แม้สงครามจะเป็นสิ่งที่ขัดต่อศีลธรรม แต่อย่างน้อยกฎการทำสงครามก็ยังมีพื้นที่ให้ศีลธรรมหลงเหลืออยู่บ้าง"

ในการประทานสัมภาษณ์สื่อบนเครื่องบิน โป๊ปวัย 87 พรรษายังตรัสถึงปฏิบัติการโจมตีล่าสุดของอิสราเอลด้วยว่า "การป้องกันกับการโจมตีควรทำอย่างพอเหมาะพอสม หากมีอย่างใดอย่างหนึ่งมากไป คุณก็จะเห็นแนวโน้มของการใช้อิทธิพลกดดันที่ก้าวข้ามหลักศีลธรรม"

โป๊ปฟรานซิสซึ่งเป็นประมุขคริสตจักรคาทอลิกที่มีผู้นับถือราว 1,400 ล้านคนทั่วโลก ทรงออกมาเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงเสมอ แต่มักจะทรงระมัดระวังไม่ตัดสินว่าใครเป็นฝ่ายรุกรานใคร

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาพระองค์เริ่มออกมาวิจารณ์ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซาอย่างตรงไปตรงมามากขึ้น

สัปดาห์ที่แล้ว โป๊ปฟรานซิสตรัสว่าการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในเลบานอนเป็นสิ่งที่ "รับไม่ได้" และทรงเรียกร้องให้ประชาคมโลกทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยยุติสงครามครั้งนี้ ต่อมาในวันที่ 28 ก.ย. ยังทรงแสดงความเสียพระทัยต่อกรณีที่มีเด็กๆ ปาเลสไตน์เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลในกาซาด้วย

พระองค์เผยวานนี้ (29) ว่า ได้ทรงพูดคุยกับสมาชิกโบสถ์คาทอลิกในกาซา "ทุกวัน" โดยสมาชิกโบสถ์เหล่านั้นได้แจ้งให้พระองค์ทราบถึงสถานการณ์ในพื้นที่ "รวมถึงความรุนแรงป่าเถื่อนที่กำลังเกิดขึ้นที่นั่น"

ที่มา : รอยเตอร์