สหรัฐฯ กำลังพิจารณาส่งทหารเข้าประจำการในตะวันออกกลางเพิ่มเติม หลังอิสราเอลโจมตีสังหาร ฮัสซาน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำทางการเมืองของฮิซบอลเลาะห์ โหมกระพือสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาคให้ดุเดือดมากยิ่งขึ้น ตามรายงานของสำนักข่าวเอ็นบีซีในวันเสาร์ (28 ก.ย.) อ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อเมริกา
เอ็นบีซีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯ 2 นายที่ไม่ประสงค์เอ่ยนาม เปิดเผยว่ากองทัพอเมริกาได้นำเสนอ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหม สำหรับทางเลือกต่างๆ เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายกองกำลังเพิ่มเติมเข้าไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง จากนั้นมีข่าวว่า ทางรัฐมนตรีกลาโหมรายนี้ ได้หยิบยกประเด็นการเปลี่ยนแปลงการจัดวางกำลังดังกล่าวไปหารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน และพวกเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวเอ็นบีซี ระบุว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ แม้ ออสติน มีอำนาจในการส่งกองกำลังเพิ่มเติมเข้าไปยังตะวันออกกลาง
ก่อนหน้านี้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ได้เคลื่อนไหวเสริมการประจำการทางทหารในตะวันออกกลาง ท่ามกลางความตึงเครียดที่ร้อนระอุยิ่งขึ้นระหว่างฮิซบอลเลาะห์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านกับอิสราเอล ปัจจุบันอเมริกามีทหารประจำการอยู่ในภูมิภาคราว 40,000 นาย ในนั้นรวมถึงเรือรบหลายสิบลำ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยกับเอบีซี ว่าเพนตากอนพิจารณาปรับขุมกำลังเหล่านี้ เพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ โดยอาจเป็นการขยายเวลาการประจำการในปัจจุบันออกไปบางส่วน หรือปรับเปลี่ยนในด้านแสนนายุภาพทางอากาศและอื่นๆ นอกจากนี้ อเมริกายังเตรียมพร้อมสำหรับเข้าสนับสนุนปฏิบัติการอพยพฉุกเฉินพาพลเมืองสหรัฐฯ ออกจากภูมิภาคแห่งนี้ถ้าจำเป็น
ความตึงเครียดในตะวันออกกลางพุ่งสูงขึ้นในวันเสาร์ (28 ก.ย.) หลัง อิสราเอล ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเล่นงานฐานที่มั่นของฮิซบอลเลาะห์ในกรุงเบรุต ปลิดชีพ นาสรัลเลาะห์ ที่เป็นผู้นำของพวกนักรบกลุ่มนี้มายาวนาน และเป็นศัตรูตัวฉกาจของอิสราเอล บรรดาเจ้าหน้าที่ในอิสราเอลอ้างว่าพวกเขาสามารถกำจัดพวกผู้นำทางทหารของฮิซบอลเลาะห์ได้เกือบทั้งหมดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ตามหลังการลอบสังหารนาสรัลเลาะห์ ทาง ฮิซบอลเลาะห์ ประกาศจะเดินหน้า "การทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ ในการเผชิญหน้ากับศัตรูต่อไป เพื่อสนับสนุนกาซาและปาเลสไตน์"
อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เตือนว่า "เลือดของผู้เสียสละจะไม่ถูกปล่อยให้ไหลรินโดยเสียเปล่า โดยไม่มีการแก้แค้นใดๆ"
กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล เปิดเผยว่าพวกเขาพร้อมสำหรับสกัดการโจมตีแก้แค้นใดๆ โดยกองทัพถูกสั่งให้ระแวดระวังขั้นสูงสุด ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับวอชิงตันโพสต์ ระบุว่ารัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็เตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ลุกลามบานปลายเช่นกัน พร้อมบอกว่า "มันเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่าอะไรจะเกิดขึ้นตามมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า" โดยความเสี่ยงหลักๆ จะเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของอิหร่านที่มีต่อการจู่โจมปลิดชีพนาสรัลเลาะห์
พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยังส่งเสียงคร่ำครวญด้วยว่าไม่ได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้าจากอิสราเอล เกี่ยวกับแผนสังหารนาสรัลเลาะห์ และพวกเขาไม่ทันได้ระวังตัว ต่อปฏิบัติการจุดชนวนระเบิดเพจเจอร์และวิทยุสื่อสาร ที่สังหารสมาชิกกลุ่มอิซบอลเลาะห์ไปหลายสิบคนและบาดเจ็บอีกเป็นพัน เมื่อช่วงกลางเดือน ซึ่งมีการกล่าวโทษว่าเป็นฝีมืออิสราเอล
(ที่มา : เอบีซี/อาร์ทีนิวส์)