ปฏิบัติการของอิสราเอลในการสังหาร ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน เป็นการแสดงให้เห็นว่า ไม่มีที่ไหนในตะวันออกกลางที่อยู่ไกลเกินเอื้อมของรัฐยิว จากสุ้มเสียงของเบนจามิน เนทันยาฮู ที่เตือนไปยังบรรดาคู่อริทั้งหลายในภูมิภาค ระหว่างปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์ในวันเสาร์ (28 ก.ย.)
กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล (ไอดีเอฟ) สังหารผู้นำกลุ่มนักรบฮิซบอลเลาะห์ ในปฏิบัติการทิ้งบอมบ์ลถล่มกองบัญชาการใต้ดินแห่งหนึ่งในกรุงเบรุต ขณะที่ฮิซบอลเลาะห์ยืนยันการตายของ นาสรัลเลาะห์ ในวันเสาร์ (28 ก.ย.)
เนทันยาฮู เตือนถึงอิหร่าน อ้างถึงระบอบ "อยาตอลเลาะห์" ว่าอิสราเอลจะแก้แค้นรัฐใดก็ตามที่คุกคามพวกเขา "พวกที่โจมตีเรา เราจะโจมตีใส่พวกเขา ไม่มีที่ไหนในอิหร่านหรือตะวันออกกลางอยู่ไกลเกินเอื้อมของอาวุธพิสัยไกลอิสราเอล และวันนี้พวกคุณได้รู้แล้วว่ามันเป็นเรื่องจริง"
"การสังหารนาสรัลเลาะห์ คือสารเพิ่มเติมที่ส่งถึงพวกฮามาส" เนทันยาฮูกล่าว "ยิ่งไปกว่านั้น ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำทางการเมืองของฮิซบอลเลาะห์ ตระหนักดีว่า ฮิซบอลเลาะห์ไม่อาจมาปกป้องเขาได้อีกต่อไป นี่เป็นโอกาสดีที่เราจะได้ตัวประกันกลับมา"
อย่างไรก็ตาม เนทันยาฮูเตือนชาวอิสราเอลให้อยู่ในความระมัดระวัง โดยระบุว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก "เราจะเจอกับความท้าทายใหญ่หลวงที่ช่วงไม่กี่วันข้างหน้า และเราจะรับมือกับพวกมัน" พร้อมให้คำจำกัดความว่านี่คือช่วงเวลาแห่ง "จุดเปลี่ยนครั้งประวัติศาสตร์"
สำนักข่าวเอบีซีนิวส์ อ้างอิงแหล่งข่าว รายงานว่าบางทีกองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล อาจกำลังวางแผนเปิดปฏิบัติการทางภาคพื้นเล่นงานฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน
ฮิซบอลเลาะห์กับอิสราเอลยิงตอบโต้กันไปมาถี่ขึ้นเรื่อยๆ ในเหตุโจมตีข้ามชายแดนเมื่อเร็วๆ นี้ ก่อความกังวลเกี่ยวกับสงครามเต็มรูปแบบ นับตั้งแต่สงครามระหว่างฮามาส พันธมิตรของฮิซบอลเลาะห์ กับอิสราเอล ปะทุขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน
ความตึงเครียดโหมกระพือขึ้นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา จากเหตุเพจเจอร์และอุปกรณ์สื่อสารไร้สายหลายพันเครื่องระเบิดทั่วเลบานอน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย และบาดเจ็บหลายพันคน ซึ่งกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล สหประชาชาติประณามสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ และโวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้มีการสืบสวนอย่างละเอียด
อิสราเอลไม่ยืนยันหรือปฏิเสธความเกี่ยวข้อง ขณะที่การโจมตีดังกล่าวถูกมองอย่างกว้างขวางว่าลงมือโดยหน่วยข่าวกรองของพวกเขา
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)