xs
xsm
sm
md
lg

ดูเหมือนปลื้มปริ่ม! ไบเดน-แฮร์ริสชี้ปลิดชีพผู้นำฮิซบอลเลาะห์ คือ 'ความยุติธรรม' สางแค้นให้เหยื่อ 4 ทศวรรษ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อิสราเอลโจมตีทางอากาศสังหาร ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮามาส คือ "มาตรการแห่งความยุติธรรม" ที่มอบแก่เหยื่อที่ถูกเข่นฆ่าโดยพวกก่อการร้ายกลุ่มนี้ในช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา จากคำกล่าวของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์ (28 ก.ย.)

ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ยืนยันก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (28 ก.ย.) ว่า นาสรัลเลาะห์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งของกลุ่มเสียชีวิตในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ถล่มกรุงเบรุต หนึ่งวันก่อนหน้า

ไบเดน เน้นว่าปฏิบัติการกำจัด นาสรัลเลาะห์ เกิดขึ้นในบริบทอย่างกว้างๆ ของความขัดแย้งที่เริ่มขึ้นจากการสังหารหมู่ชาวอิสราเอล โดยฝีมือของพวกฮามาส เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 "ในวันถัดมา นาสรัลเลาะห์ ตัดสินใจที่เป็นเวรเป็นกรรม เข้าร่วมมือกับฮามาส และเปิดฉากในสิ่งที่เขาเรียกว่าแนวหน้าทางเหนือกับอิสราเอล" ผู้นำสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง

ประธานาธิบดีอเมริกาเน้นว่า ฮิซบอลเลาะห์ภายใต้การบงการของนาสรัลเลาะห์ อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของชาวอเมริกา ชาวอิสราเอล และชาวเลบานอนหลายพันหลายหมื่นคน

ฮิซบอลเลาะห์เคยโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯต่างๆ ในนั้นรวมถึงเหตุการณ์รถกระบะระเบิดในสถานทูตอเมริกา และเหตุโจมตีค่ายทหารของกองกำลังนานาชาติในเบรุตเมื่อปี 1983 รวมถึงปฏิบัติการลักพาตัวหัวหน้าซีไอเอ ซึ่งประจำการในเมืองหลวงของเลบานอน และเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัว ทั้งนี้ สหรัฐฯ ยังกล่าวหาบรรดาผู้นำฮิซบอลเลาะห์ จัดหาอาวุธและมอบการฝึกฝนแก่พวกนักรบที่ลงมือโจมตีกองกำลังอเมริการะหว่างสงครามในอิรักด้วย

ทำเนียบขาวมองว่าการตายของนาสรัลเลาะห์ ก่อความเสียหายครั้งใหญ่แก่ฮิซบอลเลาะห์ แต่ในขณะเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามก้าวย่างอย่างระมัดระวัง เนื่องจากอีกด้านหนึ่งพวกเขากำลังหาทางควบคุมสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาส ไม่ให้ลุกลามบานปลายกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาคเต็มรูป ทั้งนี้เช่นเดียวกับ ฮิซบอลเลาะห์ ทาง ฮามาส ก็ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านเช่นกัน

เพนตากอนและทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (27 ก.ย.) รุดออกมาชี้แจงอย่างรวดเร็ว ไม่นานหลังเหตุโจมตี ยืนยันอิสราเอลไม่ได้แจ้งล่วงหน้าเกี่ยวกับปฏิบัติการดังกล่าว
"ประธานาธิบดีไบเดนกับดิฉัน ไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งในตะวันออกกลางลุกลามเป็นสงครามระดับภูมิภาคในวงกว้าง" กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวันเสาร์ (28 ก.ย) เน้นย้ำคำกล่าวของไบเดนเกี่ยวกับ "มาตรการแห่งความยุติธรรม" พร้อมระบุ "การทูตยังเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการเดินหน้าปกป้องพลเรือน และบรรลุเป้าหมายเสถียรภาพที่ยั่งยืนในภูมิภาค"

เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวสุนทรพจน์กับสหประชาชาติเมื่อวันศุกร์ (27 ก.ย.) ประกาศเดินหน้าปฏิบัติการจัดการกับฮิซบอลเลาะห์ จนกว่าพลเมืองอิสราเอลที่ไร้ถิ่นฐานหลายหมื่นคน จากการโจมตีด้วยจรวดเป็นระลอกสามารถเดินทางกลับบ้านได้ และไม่นานหลังจากนั้น อิสราเอลก็ดำเนินการโจมตีปลิดชีพ นาสรัลเลาะห์

ไบเดน เน้นย้ำว่าเขาต้องการเห็นการหยุดยิงในกาซา รวมถึงระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ "ถึงเวลาแล้วที่ต้องปิดข้อตกลงเหล่านี้ เพื่อรื้อถอนภัยคุกคามที่มีต่ออิสราเอล และเพื่อให้ภูมิภาคตะวันออกกลางในวงกว้างมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น"

มาซูด ปาเซชเคียน ประธานาธิบดีอิหร่าน กล่าวหาสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนปฏิบัติการสังหารนาสรัลเลาะห์ และคนอื่นๆ อีกหลายสิบคน "ประชาคมโลกจะไม่ลืมว่า คำสั่งโจมตีก่อการร้ายนี้มาจากนิวยอร์ก และอเมริกาไม่อาจอภัยโทษให้ตนเองจากการสมคบคิดกับพวกไซออนิสต์"

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันเสาร์ (28 ก.ย.) ออกคำสั่งให้ครอบครัวของบรรดาผู้แทนทูตอเมริกา ที่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตในกรุงเบรุต เดินทางออกมา และอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายที่ไม่มีความจำเป็นเดินทางออกมาเช่นกัน สืบเนื่องจากสถานการณ์ความมั่นคงที่อ่อนไหวและคาดเดาไม่ได้ในเมืองหลวงของเลบานอน

ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เคยออกคำแนะนำให้พลเมืองอเมริกา พิจารณาเดินทางออกนอกเลบานอน และเน้นย้ำคำเตือนอย่าเดินทางไปเยือนประเทศแห่งนี้

ไบเดน ซึ่งใช้เวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ ณ บ้านพักในเดลาแวร์ และแฮร์ริส ที่เดินทางไปหาเสียงในแคลิฟอร์เนีย ต่างได้พูดคุยกับคณะทำงานด้านความมั่นคงแห่งชาติในวันเสาร์ (28 ก.ย.) เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง

จากนั้นในวันเดียวกัน ระหว่างเดินทางออกจากโบสถ์ ไบเดน ได้พูดคุยกับพวกผู้สื่อข่าว แต่ไม่ได้ตอบคำถามโดยตรงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สถานการณ์ความขัดแย้งจะลุกลามบานปลาย

ประธานาธิบดีรายนี้ในวันศุกร์ (27 ก.ย.) สั่งการให้เพนตากอนประเมินและปรับเปลี่ยนการจัดวางกองกำลังของสหรัฐฯ ในภูมิภาค เพื่อเสริมสร้างการป้องปราม รับประกันการคุ้มกันกำลังพลและสนับสนุนเป้าหมายต่างๆ ของอเมริกาอย่างเต็มพิกัด

เสียงเรียกร้องให้เพนตากอนทำการประเมินดังกล่าว มีขึ้นหลังจากเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ เพนตากอนแถลงส่งทหารสหรัฐฯ เข้าไปยังภูมิภาคแถบนี้เพิ่มเติม สืบเนื่องจากสถานการณ์ความตึงเครียด แต่ไม่เจาะจงจำนวน

(ที่มา : เอพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น