ชิเงรุ อิชิบะ (Shigeru Ishiba) อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) วันนี้ (27 ก.ย.) และเตรียมก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของแดนอาทิตย์อุทัย
อิชิบะ ในวัย 67 ปี ได้รับคะแนนโหวตจากคนในพรรค 215 เสียง เอาชนะคู่แข่งอย่าง ซานาเอะ ทาคาอิจิ (Sanae Takaichi) ซึ่งได้คะแนนไป 194 เสียงในกระบวนการโหวตรอบตัดเชือก
หลังมีการประกาศผลการคัดเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ที่สำนักงานใหญ่ของพรรค LDP ในกรุงโตเกียว อิชิบะ ซึ่งมีสีหน้ายิ้มแย้มได้ถอดแว่นและปาดน้ำตาด้วยความปลาบปลื้ม ก่อนจะโค้งคำนับให้แก่เพื่อนร่วมพรรคที่แสดงความยินดีกับเขา
“ผมจะตั้งใจเชื่อมั่นในประชาชน พูดความจริงอย่างกล้าหาญและจริงใจ และทำให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ปลอดภัยที่ทุกคนจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตด้วยรอยยิ้มได้อีกครั้งหนึ่ง” เขาระบุในถ้อยแถลงสั้นๆ
อิชิบะ เคยเกือบจะก้าวถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาแล้วหลายครั้งในอดีต รวมถึงเมื่อปี 2012 ที่เขาพ่ายแพ้ให้ ชินโซ อาเบะ ผู้นำซึ่งครองอำนาจยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นและเสียชีวิตลงจากการถูกลอบสังหารเมื่อเดือน ก.ค. ปี 2022
อดีตรัฐมนตรีผู้ชื่นชอบหลงใหลใน “รถไฟ” และป็อปไอดอลในยุค 1970s คนนี้ระบุว่า ประสบการณ์การแก้ไขปัญหาใหญ่ในสังคม เช่น การปฏิรูปเกษตรกรรม ทำให้เขามีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการเป็นผู้นำประเทศ
ยู อุจิยามะ อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโตเกียว ให้ความเห็นว่าภาพลักษณ์ของ อิชิบะ ที่เป็นคนซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาทำให้เขาได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนร่วมพรรคให้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำคนใหม่ ท่ามกลางกระแสข่าวอื้อฉาวต่างๆ เกี่ยวกับพรรค LDP ซึ่งทำให้เกิดวิกฤตศรัทธาขึ้น
พรรค LDP ผูกขาดอำนาจบริหารญี่ปุ่นอย่างแทบจะไม่ขาดช่วงขาดตอนมานานนับสิบๆ ปี และยังคงมีเสียงข้างมากในสภาอยู่ ซึ่งก็หมายความว่า อิชิบะ จะได้รับการโหวตรับรองจากรัฐสภาให้เป็นนายกฯ คนใหม่ในวันอังคารหน้า (1 ต.ค.)
ในฐานะผู้นำญี่ปุ่น อิชิบะ ต้องเตรียมรับมือกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นท่าทีก้าวร้าวของจีน รวมไปถึงการสานสัมพันธ์ที่แนบแน่นยิ่งกว่าเดิมระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือ
ท่าทีของ อิชิบะ ที่สนับสนุนการเสริมเขี้ยวเล็บกองกำลังญี่ปุ่น และเรียกร้องให้จัดตั้ง “นาโตเอเชีย” คาดว่าจะก่อแรงต้านจากจีนไม่น้อย ทว่าตัวเขาเองก็พยายามเลือกใช้ถ้อยคำอย่างระมัดระวังเมื่อจะพาดพิงถึงปักกิ่ง
สำหรับปัญหาภายในประเทศ อิชิบะ จะต้องหาวิธีฟื้นฟูกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เริ่มส่งสัญญาณหันหนีจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงินที่ใช้มานานหลายสิบปี
ชัยชนะของ อิชิบะ ส่งผลให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 142.94 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ จาก 146.49 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงที่มีกระแสข่าวว่า อิชิบะ และ ทาคาอิจิ ยังคงมีคะแนนสูสีกัน
บริษัทที่ปรึกษา Capital Economics ชี้ว่า “ชัยชนะของ อิชิบะ ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับพวกผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น”
อิชิบะ สนับสนุนให้ BOJ ถอยห่างจากนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ และยังให้คำมั่นสัญญาว่าจะฟื้นฟูเศรษฐกิจในชนบท รวมถึงเสนอให้มีการตั้งหน่วยงานรัฐเพื่อดูแลงานด้านการป้องกันภัยพิบัติโดยเฉพาะ
ที่มา : เอเอฟพี